การประยุกต์ใช้หลักพุทธรรมเพื่อการจัดการความขัดแย้งทางการเมือง ระดับท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช

ผู้แต่ง

  • การัณย์ พรหมแก้ว มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • ธัชชนันท์ อิศรเดช มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • สุรพล สุยะพรหม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

พุทธธรรม, การจัดการความขัดแย้งทางการเมือง, การเมืองท้องถิ่น

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. ศึกษาสภาพทั่วไปของความขัดแย้งทางการเมืองในพื้นที่ 2. ศึกษาแนวทางการบริหารจัดการความขัดแย้งระดับท้องถิ่น และ 3. การประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ การวิจัยใช้ระเบียบวิธีเชิงคุณภาพ โดยผู้ให้ข้อมูลสำคัญได้แก่ กลุ่มนักวิชาการด้านพุทธศาสนาและรัฐศาสตร์ ข้าราชการ นักการเมือง และผู้นำชุมชน รวมทั้งสิ้น 25 คน การคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างใช้วิธีเจาะจง และเก็บข้อมูลผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึกด้วยแบบสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง จากนั้นจึงวิเคราะห์และนำเสนอผลในรูปแบบความเรียง

ผลการวิจัยพบว่า 1. ความขัดแย้งในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีความหลากหลายใน 3 มิติสำคัญ ได้แก่ ความขัดแย้งทางการเมืองซึ่งเกิดจากระบบอุปถัมภ์ที่เอื้อประโยชน์ระหว่างระบบราชการและการเมือง ส่งผลให้เกิดความไม่เป็นธรรมในระบบการบริหารงานรัฐ ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจเกิดจากการนำทรัพยากรสาธารณะไปสู่กลุ่มผู้มีอิทธิพล ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และความขัดแย้งทางสังคมวัฒนธรรมซึ่งสะท้อนถึงความแตกต่างในความคิดและความเชื่อของประชาชนในพื้นที่ 2. สำหรับแนวทางการบริหารจัดการความขัดแย้ง สามารถดำเนินการได้ 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การบังคับและกดดันโดยใช้อำนาจรัฐและกฎหมายซึ่งมีประสิทธิภาพในสถานการณ์เร่งด่วน การประนีประนอมโดยใช้การเจรจาและคนกลางเพื่อค้นหาความร่วมมือ และการแก้ปัญหาร่วมกันผ่านการมีส่วนร่วมของภาคการเมือง ระบบราชการ และประชาชนในพื้นที่ 3. การประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมเพื่อจัดการความขัดแย้งถูกนำเสนอใน 3 รูปแบบ ได้แก่ การแก้ไขโดยไม่ใช้กฎข้อบังคับ อาทิ เมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม และเมตตามโนกรรม การใช้กฎข้อบังคับ เช่น สีลสามัญญตาและทิฎฐิสามัญญตา และการกระจายทรัพยากรอย่างเท่าเทียมตามหลักสาธารณโภคี แนวทางดังกล่าวมุ่งสร้างความยั่งยืนและสมานฉันท์ในสังคม

References

โกวิทย์ พวงงาม. (2553). การจัดการตนเองของชุมชนและท้องถิ่น. กรุงเทพฯ: บพิธการพิมพ์.

จิรวัฒน์ เกื้อทาน. (2562). ผลกระทบของความขัดแย้งทางการเมืองต่อชุมชน: กรณีศึกษาบ้านไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา. วารสารรามคำแหง ฉบับรัฐประศาสนศาสตร์, 2(2), 103-118.

ณฐา แย้มสรวล. (2559). การประยุกต์หลักสาราณียธรรมเพื่อเสริมสร้างความปรองดองในการปฏิบัติงานวิชาชีพพยาบาลในโรงพยาบาลบางไทรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. วารสาร มจร พุทธปัญญาปริทรรศน์, 1(1), 49-58.

ทัศนีย์ ปิ่นสวัสดิ์. (2561). การจัดการความขัดแย้งทางการเมืองในจังหวัดชัยนาท. Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์ และศิลปะ, 11(1), 2780 – 2800.

นพนนต์ หวานชื่น และคณะ. (2556). การจัดการความขัดแย้งในการปฏิบัติงานของผู้นำท้องที่กับผู้นำท้องถิ่นเขตพื้นที่ตำบลฉวาง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน, 3(1), 121-137.

แนวหน้า. (2564). บทเรียนมีมาแล้ว!'ปชป.'งัดมารยาทติงพปชร.แข่งชิงสส.นครศรีฯ ชี้ควรเลี่ยงขัดแย้ง. สืบค้น 15 สิงหาคม 2566, จาก https://shorturl.asia/EGgKH

พงศกรณ์ พิลาบุตร. (2558). ความขัดแย้งทางการเมืองที่ส่งผลต่อการพัฒนาทางการเมืองของประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย. วารสารศรีล้านช้างปริทรรศน์, 1(1), 75-90.

พระครูธรรมธรบุญเที่ยง พุทฺธสาวโก. (2564). การบูรณาการหลักพุทธธรรมกับการสื่อสารทางการเมืองเพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ (ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พิชญา สุกใส. (2553). การจัดการความขัดแย้งทางการเมืองไทย ระหว่าง พ.ศ. 2547-2553. กรุงเทพฯ: ชมรมการจัดการความขัดแย้งแห่งประเทศไทย.

สืบวงษ์ สุขะมงคล. (2557). การบริหารจัดการความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทยระหว่างปี พ.ศ. 2544-2555. วารสารเกษมบัณฑิต, 15(1), 39-55.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2025-02-22

How to Cite

พรหมแก้ว ก., อิศรเดช ธ., & สุยะพรหม ส. (2025). การประยุกต์ใช้หลักพุทธรรมเพื่อการจัดการความขัดแย้งทางการเมือง ระดับท้องถิ่นในจังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์, 8(1), 46–58. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jidir/article/view/276304