การพัฒนาการสื่อสารสังคมไร้คอร์รัปชั่นขององค์กรปกครองปกครองส่วนท้องถิ่นในอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง
คำสำคัญ:
การพัฒนา, การสื่อสาร, สังคมไร้คอร์รัปชั่น, องค์กรปกครองปกครองส่วนท้องถิ่นบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1. สภาพปัจจุบันของการสื่อสารสังคมไร้คอรัปชั่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง 2. องค์ประกอบเพื่อสังคมไร้คอรัปชั่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง และ 3. เพื่อนำเสนอการประยุกต์หลักสัมมาวาจาเพื่อการพัฒนาการสื่อสารสังคมไร้คอร์รัปชั่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อประชาชนในอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ใช้การวิจัยแบบผสานวิธี โดยสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 18 รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลเนื้อหาเชิงพรรณนา และวิจัยเชิงปริมาณ เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 399 คน ด้วยค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และวิเคราะห์สหสัมพันธ์
ผลการวิจัยพบว่า 1. การสื่อสารเพื่อสังคมไร้คอร์รัปชั่น โดยรวมอยู่ในระดับมาก ตามลำดับดังนี้ ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้านการเปิดเผยข้อมูล ด้านการสื่อสารเชิงรณรงค์ ด้านการเผยแพร่ตัวอย่างที่ดี อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านการส่งเสริมสื่อมวลชนอิสระ และด้านการสนับสนุนการรายงานทุจริต อยู่ในระดับปานกลาง 2. องค์ประกอบการสื่อสาร สามารถร่วมกันทำนายการสื่อสารสังคมไร้คอร์รัปชัน ได้ร้อยละ 75.4, สถาบันทางสังคมสามารถร่วมกันทำนายได้ร้อยละ 55.2 และหลักสัมมาวาจา ร่วมกันทำนายได้ร้อยละ 52.7 อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ 3. การประยุกต์หลักสัมมาวาจาเพื่อพัฒนาการสื่อสารสังคมไร้คอร์รัปชั่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อประชาชนในอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง พบดังนี้ การสื่อสารตรงไปตรงมา ทำให้ผู้ฟังรับรู้ข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน สร้างความไว้วางใจในสังคม ใช้ภาษาที่สุภาพและเป็นมิตรทำให้ประชาชนรู้สึกถึงความเคารพและความใส่ใจ สร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน และหลักการพูดคำที่เป็นประโยชน์ ข้อมูลที่ชัดเจนให้ประชาชนรู้สึกว่าพวกเขามีส่วนร่วมในการพัฒนาและสามารถตรวจสอบการทำงานขององค์กรได้ มีช่องทางทางในการส่งสารประชาชนสามารถติดตามได้ง่าย แสดงถึงความโปร่งใส และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้รับสาร ฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชน
References
ชัยวัฒน์ อัตพัฒน์. (2523). หลักพุทธศาสนา. กรุงเทพฯ: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ทิวากร แสร์สุวรรณ. (2565). การใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อสร้างความตระหนักรู้และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการป้องกันการทุจริตเชิงนโยบาย. วารสารวิชาการวิทยาลัยบริหารศาสตร์, 5(1), 99-112.
ธนัชชา ชิดชม. (2564). รูปแบบการสื่อสารในองค์กรเพื่อลดความขัดแย้งและสร้างความไว้วางใจในการทำงานเป็นทีมของ บุคลากรโรงพยาบาลเอกชน ABC ในจังหวัดสมุทรปราการ (วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจ). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
พนม คลี่ฉายา. (2553). การใช้สื่อรณรงค์ต่อต้านการทุจริตของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ปีพุทธศักราช 2542-2553 (วิทยานิพนธ์นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตรพัฒนาการ). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พระสมชาย ปโยโค (ดำเนิน). (2554). การประยุกต์ใช้สัมมาวาจาเพื่อการบริหารงานของผู้นำ. วารสารพุทธธรรมกับการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ, 3(1), 1-18.
พระอนุรักษ์ อนุรกฺขิโต (รัฐธรรม) และคณะ. (2562). การศึกษาวิเคราะห์ประโยชน์ของสัมมาวาจาในสถาบันครอบครัว ของนักเรียนโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสารสังคมศาสตร์และวัฒนธรรม, 3(2), 28-40.
รวิพรรณ จารุทวี. (2565). ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ในสื่อสังคมออนไลน์ของนักศึกษาระดับอุดมศึกษา ในเขตกรุงเทพมหานคร. วารสาร
ศิลปศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 15(1), 1-14.
สถิติประชากรศาสตร์ จังหวัดตรัง. (2567). สถิติประชากร. สืบค้น 20 ธันวาคม 2567, จาก https://trang.nso.go.th/images/report/stitic/63/1.pdf.
สิน พันธ์พินิจ. (2547). เทคนิคการวิจัยทางสังคมศาสตร์. กรุงเทพฯ: วิทยพัฒน์
Yamane Taro. (1967). Statistic: An Introductory Analysis. New York: Harpen and Row.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2025 วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น