การศึกษาองค์ประกอบความสำนึกรับผิดชอบของผู้บริหารสถานศึกษา
คำสำคัญ:
ความสำนึกรับผิดชอบ, การเป็นเจ้าของร่วมกัน, การสร้างขวัญและกำลังใจ, การติดตามและประเมินผล, องค์ประกอบบทคัดย่อ
บทความวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาองค์ประกอบความสำนึกรับผิดชอบของผู้บริหารสถานศึกษา โดยมีวิธีการดำเนินการวิจัย 2 ขั้นตอน ได้แก่ 1. การสังเคราะห์องค์ประกอบความสำนึกรับผิดชอบของผู้บริหารสถานศึกษา จากเอกสารและงานวิจัย 10 แหล่ง และ 2. การประเมินความเหมาะสมขององค์ประกอบของความสำนึกรับผิดชอบของผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ทรงคุณวุฒิ 10 คน แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แบบสอบถาม โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน และ แบบสัมภาษณ์ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสังเคราะห์องค์ประกอบความสำนึกรับผิดชอบของผู้บริหารสถานศึกษา และแบบประเมินความเหมาะสมขององค์ประกอบของผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งแบ่งออกเป็นแบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลในการประเมินความเหมาะสมขององค์ประกอบ คือ ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 10 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า องค์ประกอบความสำนึกรับผิดชอบของผู้บริหารสถานศึกษา ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1. การติดตามและประเมินผล 2. การกำหนดเป้าหมาย 3. การเป็นเจ้าของร่วมกัน 4. การสร้างขวัญและกำลังใจ และ 5. การมีแผนสำรอง โดยทุกองค์ประกอบอยู่ในระดับมากที่สุด ผลการศึกษาครั้งนี้ เป็นประโยชน์ต่อการบริหารสถานศึกษาและหน่วยงานอื่น ๆ ที่จะนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาความสำนึกรับผิดชอบของผู้บริหารสถานศึกษาให้ เพราะหากขาดความสำนึกรับผิดชอบจะนำไปสู่ปัญหาการบริหารจัดการที่ขาดความโปร่งใส ไม่ยึดหลักนิติธรรม การทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ด้วยเหตุนี้การศึกษาครั้งนี้จึงมีประโยชน์ต่อการบริหารสถานศึกษาต่อไป องค์ประกอบความสำนึกรับผิดชอบของผู้บริหารสถานศึกษา ทั้ง 5 องค์ประกอบและพฤติกรรมบ่งชี้ของความสำนึกรับผิดชอบของผู้บริหารสถานศึกษา มีความเหมาะสมสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาสามารถนำไปปรับใช้ในวงการศึกษาต่อไป
References
ถวิลวดี บุรีกุล. (2545). โครงการศึกษาเพื่อพัฒนาดัชนีวัดผลการพัฒนาระบบบริหารจัดการที่ดี (รายงานผลการวิจัย). กรุงเทพฯ: สำนักวิจัยและพัฒนาสถาบันพระปกเกล้า.
พลชัย ชุมปัญญา (2566). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการวิถีใหม่ตามหลักธรรมาภิบาลของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาในจังหวัดสกลนคร (ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา). สกลนคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
พัชรี สิโรรส (2545). กลยุทธ์การสร้างระบบความพร้อมรับผิด (Accountability) ในหน่วยงานภาครัฐ. วารสารข้าราชการ, 47(1), 17.
พัชรี สิโรรส. (2565). ตัวชี้วัดหลักสำนึกรับผิดชอบ. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.
รินทร์ลภัส วุฒิปรีชาสิทธิ์. (2562). แนวทางการพัฒนาธรรมาภิบาลในการปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐ (รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์). กรุงเทพฯ: สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2552). คู่มือการจัดระดับการกำกับดูแลองค์การภาครัฐ ตามหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี. กรุงเทพฯ: พรีเมียร์ โปร จำกัด.
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. (2565). นโยบายการกำกับดูแลองค์การที่ดีของ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. กรุงเทพฯ: สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ.
สุขพิชัย คณะช่าง. (2566). S.I.M.P.L.E Model เสริมความรู้สึกเป็นเจ้าของงานและเพิ่มAccountability ให้คนในทีม. สืบค้น 10 มิถุนายน 2567, จาก https://www.brightsidepeople.com/จะทำให้คนในทีมรู้สึกเป.
อรพินท์ สพโชคชัย. (2564). ถอดรหัสธรรมาภิบาลท้องถิ่น. กรุงเทพฯ: วิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า.
Anderson, J. A. (2005). Accountability in education. Paris: International Institute for Educational Planning.
Carucci, R. (2020). How to Actually Encourage Employee Accountability. Retrieved June 9, 2024, from https://hbr.org/2020/11/how-to-actually-encourage-employee-accountability.
Perie, M., Park, J., & Klau, K. (2007). Key elements for educational accountability models. A paper commissioned by the council of chief state school officers accountability systems and reporting state collaborative: Council of Chief State School Officers.
Samuel, M. (2003). The Accountability Revolution: Achieve Berking Result in Half - the Time. (2rd ed.). Arizona: Fact on Demand Press.
Sholihah et al., (2020). Development of Interactive Multimedia Learning Courseware to Strengthen Students’ Character. European Journal of Educational Research, 9(3), 1267 - 1279.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2025 วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น