การศึกษาเปรียบเทียบมาตรการทางกฎหมายในการอุปถัมภ์คุ้มครองพระพุทธศาสนาของราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์
คำสำคัญ:
มาตรการทางกฎหมาย, การคุ้มครองพระพุทธศาสนา, ราชอาณาจักรไทย, สาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบมาตรการในการคุ้มครองพระพุทธศาสนาของราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการศึกษาค้นคว้าเชิงเอกสารเป็นหลัก ได้แก่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 และรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ค.ศ. 2008 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1. แบบบันทึกข้อมูล (Data Recording Form) เพื่อใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร 2. แบบประเมินคุณภาพเอกสาร (Document Quality Assessment Form) ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ความถูกต้อง ความครบถ้วน วิเคราะห์โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ และนำเสนอสรุปผลการวิจัยแบบพรรณา
ผลการวิจัยพบว่า การคุ้มครองด้านศาสนาในไทยและเมียนมาร์มีความคล้ายคลึงกันในแง่ของการรับรองเสรีภาพในการนับถือศาสนา แต่แตกต่างในรายละเอียดและการปฏิบัติ ไทยให้ความสำคัญกับศาสนาพุทธเป็นพิเศษและสนับสนุนผ่านกฎหมายและงบประมาณ ขณะที่เมียนมาร์ แม้รับรองเสรีภาพทางศาสนา แต่ในทางปฏิบัติยังมีข้อจำกัดและการเลือกปฏิบัติต่อศาสนาอื่น 1. ด้านศาสนบุคคล ไทยคุ้มครองพระสงฆ์และผู้ปฏิบัติศาสนาอย่างเสมอภาค แม้ว่าศาสนาพุทธจะได้รับการสนับสนุนมากกว่า ในขณะที่เมียนมาร์ ศาสนาพุทธมีอิทธิพลสูงและได้รับการสนับสนุนจากรัฐอย่างเข้มแข็ง แต่ศาสนาอื่นกลับเผชิญข้อจำกัดและความขัดแย้ง 2. ด้านศาสนสถาน ไทยมีการคุ้มครองที่ครอบคลุมทั้งศาสนาพุทธและศาสนาอื่น ส่วนเมียนมาร์เน้นสนับสนุนศาสนสถานพุทธเป็นหลัก และศาสนาอื่นมักเผชิญอุปสรรคในการดำเนินกิจกรรม 3. ด้านศาสนวัตถุ ไทยมีพระราชบัญญัติคุ้มครองโบราณสถานและองค์กรศาสนาร่วมดูแล ในขณะที่เมียนมาร์ใช้วัดและพระสงฆ์เป็นศูนย์กลางในการอนุรักษ์ศาสนวัตถุ โดยเน้นศาสนาพุทธเป็นหลัก 4. ด้านศาสนพิธี ไทยให้เสรีภาพทางศาสนาและการปฏิบัติศาสนกิจอย่างเท่าเทียม ส่วนเมียนมาร์ แม้รัฐธรรมนูญจะรับรองเสรีภาพทางศาสนา แต่ศาสนาอื่นยังเผชิญข้อจำกัดและความไม่เท่าเทียม สะท้อนถึงบทบาทของศาสนาในสังคมที่แตกต่างกันของทั้งสองประเทศ
References
เกรียงไกร เจริญธนาวัฒน์. (2547). หลักกฎหมายว่าด้วยสิทธิเสรีภาพ. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์วิญญูชน.
คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 เรื่อง มาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทย. (2559, 22 สิงหาคม). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 133 ตอนพิเศษ 184 ง. หน้า 17.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต). (2555). พระพุทธศาสนาในอาเซีย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์พระพุทธศาสนาของธรรมสภา.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. (2560, 6 เมษายน). ราชกิจจานุเบกษา. เล่ม 134 ตอนที่ 40 ก. หน้า 1-90.
ริยา เด็ดขาด. (2546). เสรีภาพในการถือศาสนาและการเผยแพร่ศาสนาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (วิทยานิพนธ์นิติศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชานิติศาสตร์). กรุงเทพฯ: คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
วิทย์ บัณฑิตกุล. (2555). รู้จักประชาคมอาเซียน. กรุงเทพฯ: วีพริ้นท์ (1991).
อรนิศวร์ เพชรชวงศ์. (2563). บทบาททางการเมืองของพระสงฆ์เมียนมาร์หลังการเลือกตั้ง ปี ค.ศ. 2015. วารสารการวิจัยการบริหารการพัฒนา, 10(1), 160-171.
Myint-U, Th. (2006). Don't Force Democracy in Burma. The New York Times. Retrieved December 15, 2024, from https://www.nytimes.com/2006/09/29/opinion/dont-force-democracy-in-burma.html
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2025 วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น