การสำรวจความต้องการในการพัฒนาหลักสูตร รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ
คำสำคัญ:
ความต้องการ, การพัฒนาหลักสูตร, หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย, ผลลัพธ์การเรียนรู้บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. สำรวจความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีผลกระทบในการพัฒนาหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ และ 2. แนวทางในการพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนและการสนับสนุนการเรียนให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้ใช้บัณฑิต ศิษย์เก่า นักศึกษา คณาจารย์ ผู้บริหารและตัวแทนชุมชน จำนวน 9 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือเป็นแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก และการวิเคราะห์เชิงพรรณนา (Descriptive Research) วิเคราะห์เนื้อหาอย่างเป็นระบบ
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อความต้องการด้านความรู้และทักษะ ได้แก่ การเรียนรู้ทฤษฎีบริหารภาครัฐ การวิเคราะห์ พัฒนา และนำเสนอนโยบายสาธารณะด้านการทำงานเน้นบริหารจัดการ คิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา สื่อสาร ทำงานร่วมกันด้านการพัฒนาตนเองเน้นความเป็นผู้นำ นวัตกรรม และการเรียนรู้ต่อเนื่อง ด้านคุณลักษณะส่วนบุคคลเน้นความซื่อสัตย์ จริยธรรม ความรับผิดชอบ และวินัย ด้านสังคมเน้นทำงานร่วมประชาสังคม ส่งเสริมธรรมาภิบาล และการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือบริหารสมัยใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ส่วนแนวทางในการพัฒนาหลักสูตร ควรวิเคราะห์ความต้องการตลาดแรงงานเน้นการระบุทักษะที่ตรงกับความรู้ที่ตลาดต้องการ เช่น ทักษะการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และการใช้เทคโนโลยีการออกแบบหลักสูตรควรใช้แนวทางการเรียนรู้จากปัญหา การทำผลงานและประสบการณ์จากการทำงานจริงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนควรเชื่อมโยงกับศิลปวัฒนธรรม การพัฒนาสังคม และตอบสนองการพัฒนาท้องถิ่นและประเทศ การประเมินผลควรใช้วิธีหลากหลายเพื่อวัดผลสัมฤทธิ์ พร้อมรวบรวมข้อมูลปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานอย่างต่อเนื่อง
เอกสารอ้างอิง
ไชยยศ เรืองสุวรรณ. (2553). Active Learning. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ปราโมทย์ สกุลรักความสุข และคณะ. (2564). การจัดการศึกษาภายใต้ปรัชญาพิพัฒนาการนิยมสู่กระบวนการจัดหลักสูตรสถานศึกษา บนฐานทฤษฎีพหุปัญญา : โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม). กรุงเทพฯ: โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร.
พรชัย มงคลวนิช. (2562). การพัฒนาหลักสูตรในศตวรรษที่ 21: แนวทางสำหรับอุดมศึกษาไทย. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา.
มานะ สินธุวงษานนท์ และนัฐยา บุญกองแสน. (2565). การจัดทำหลักสูตรที่มุ่งผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน (OBE) คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล : Implementing an Outcome-based Education (OBE) Curriculum in the Faculty of Education at Vongchavalitkul University. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 17(2), 470-482.
สมชาย เทพแสง และคณะ. (2566). การศึกษาที่เน้นผลลัพธ์ Outcome-based Education (OBE): กุญแจสำคัญในการจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นนักเรียนเป็นหลัก. วารสารสหวิทยาการวิจัยและนวัตกรรมการศึกษา, 2(1), 39-52.
สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. (2564). แนวทางการพัฒนาหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา. กรุงเทพฯ: สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม.
Anderson, L. W. & Krathwohl, D. R. (Eds.). (2001). A Taxonomy for Learning, Teaching, and Assessing: A Revision of Bloom's Taxonomy of Educational Objectives. New York: Longman.
Biggs, J. & Tang, C. (2011). Teaching for Quality Learning at University (4th ed.). New York: McGraw-Hill Education.
Bloom, B. S. (1956). Taxonomy of Educational Objectives: The Classification of Educational Goals. Handbook I: Cognitive Domain. New York: David McKay Company.
Spady, W. D. (1994). Outcome-Based Education: Critical Issues and Answers. Arlington, VA: American Association of School Administrators.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น


