การใช้หลักธรรมาภิบาลในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ต้องขังเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การคืนสู่สังคม

ผู้แต่ง

  • จักรวาล เหมือนแจ่ม นักวิชาการอิสระ

คำสำคัญ:

ธรรมาภิบาล, พฤติกรรม, ผู้ต้องขัง

บทคัดย่อ

บทความนี้มุ่งศึกษาการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาล ในกระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการเตรียมความพร้อมของผู้ต้องขังเพื่อคืนสู่สังคมอย่างยั่งยืน หลักธรรมาภิบาล ซึ่งประกอบด้วยความโปร่งใส ความยุติธรรม การมีส่วนร่วม ความรับผิดชอบ และหลักนิติธรรม ถูกนำมาใช้เป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาผู้ต้องขังเพื่อสร้างความไว้วางใจในระบบยุติธรรม เสริมสร้างศักยภาพของผู้ต้องขัง และลดอัตราการกระทำผิดซ้ำ เนื้อหาในบทความได้วิเคราะห์แนวทางการพัฒนาพฤติกรรม เช่น การฝึกอบรมทักษะอาชีพ การสนับสนุนด้านจิตวิทยา และการสร้างความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของกระบวนการ เช่น บทบาทของเจ้าหน้าที่ การจัดสรรทรัพยากรในเรือนจำและการสนับสนุนจากครอบครัวและชุมชน นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงตัวอย่างแนวปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น โครงการคืนคนดีสู่สังคมในประเทศไทย ระบบเรือนจำแบบเปิดในนอร์เวย์ และโครงการสนับสนุนผู้พ้นโทษในสหรัฐอเมริกา ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า การนำหลักธรรมาภิบาลมาปรับใช้ในกระบวนการพัฒนาผู้ต้องขังช่วยเสริมสร้างความยุติธรรม ความโปร่งใส และการมีส่วนร่วม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการเตรียมความพร้อมของผู้ต้องขังสำหรับการคืนสู่สังคม การจัดโปรแกรมฟื้นฟูที่ครอบคลุม เช่น การพัฒนาทักษะอาชีพและการสร้างเครือข่ายชุมชน สามารถลดอัตราการกระทำผิดซ้ำและเสริมสร้างความมั่นใจในตนเองของผู้ต้องขังการพัฒนากระบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการคืนสู่สังคมต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การสร้างนโยบายที่ยั่งยืนและการส่งเสริมความเข้าใจในหลักธรรมาภิบาลเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างสังคมที่ยุติธรรมและเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถฟื้นฟูชีวิตของตนเองได้

เอกสารอ้างอิง

กรมราชทัณฑ์. (2565). รายงานแนวทางการคืนคนดีสู่สังคม. กรุงเทพฯ: กรมราชทัณฑ์.

______. (2565). รายงานสถิติผู้ต้องขัง. กรุงเทพฯ: กรมราชทัณฑ์.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2556). คู่มือธรรมาภิบาล: หลักการและแนวปฏิบัติในองค์กรภาครัฐ. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ.

Maruna, S. (2001). Making Good: How Ex-Convicts Reform and Rebuild Their Lives. Washington, DC: American Psychological Association.

Organisation for Economic Co-operation and Development (OECD). (2015). OECD Principles of Public Governance. Paris: OECD.

Pratt, J. (2008). Scandinavian Exceptionalism in an Era of Penal Excess: Part I: The Nature and Roots of Scandinavian Exceptionalism. British Journal of Criminology, 48(2), 119-137.

Taxman, F. S. et al. (2013). Justice Reinvestment in Action: The Impact of Policy Changes on Recidivism. Criminal Justice Policy Review, 24(3), 367-394.

Tyler, T. R. (2006). Why People Obey the Law. Princeton: Princeton University Press.

United Nations Development Programme (UNDP). (1997). Governance for Sustainable Human Development: A UNDP Policy Document. New York: UNDP.

United Nations. (2015). Transforming our world: the 2030 Agenda for Sustainable Development. New York: United Nations.

World Bank. (1992). Governance and Development. Washington, DC: World Bank.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-06-25

รูปแบบการอ้างอิง

เหมือนแจ่ม จ. (2025). การใช้หลักธรรมาภิบาลในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ต้องขังเพื่อเตรียมความพร้อมสู่การคืนสู่สังคม. วารสารสหวิทยาการนวัตกรรมปริทรรศน์, 8(3), 244–258. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jidir/article/view/278624