การบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ร้านนวดแผนไทยของผู้พิการทางสายตาในช่วง COVID-19

Main Article Content

โอภาส กิจกำแหง

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อร้านนวดแผนไทยของผู้พิการทางสายตาในช่วงวิกฤต COVID-19 และ 2) เพื่อศึกษาการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ร้านนวดแผนไทยของผู้พิการทางสายตาในช่วงวิกฤต COVID-19 เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารร้านนวด อาสาสมัคร และผู้พิการทางสายตาที่ประกอบอาชีพนวดแผนไทยในกรุงเทพมหานคร จำนวน 6 คน ใช้การแบบเจาะจงใช้กระบวนการตรวจสอบสามเส้า วิเคราะห์ข้อมูลโดยการตีความทำการสร้างข้อสรุปแบบอุปนัยการวิเคราะห์เนื้อหาและใช้การเขียนเชิงพรรณนา ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อร้านนวดแผนไทยของผู้พิการทางสายตาในช่วงวิกฤต COVID-19 พบว่า สภาพปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อร้านนวดแผนไทยของผู้พิการทางสายตาในช่วงวิกฤต COVID-19 มีหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการจำกัดการเดินทางและมาตรการล็อกดาวน์ที่ทำให้ผู้คนไม่สามารถออกจากบ้านไปใช้บริการได้ ส่งผลให้ยอดขายและรายได้ของร้านลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ การปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยและการเว้นระยะห่างในสถานที่ทำงานยังเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายและทำให้การดำเนินงานยากขึ้น 2) การบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ร้านนวดแผนไทยของผู้พิการทางสายตาในช่วงCOVID-19 พบว่า การบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ของร้านนวดแผนไทยที่มีผู้พิการทางสายตาในช่วงวิกฤต COVID-19 เน้นที่การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเริ่มจากการปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดสถานที่และการรักษาระยะห่าง รวมถึงการฝึกฝนพนักงานให้ใช้เทคโนโลยีในการรับจองบริการออนไลน์และการโปรโมตผ่านช่องทางดิจิทัลเพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้า นอกจากนี้ ยังมีการจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อดึงดูดลูกค้ากลับมาใช้บริการหลังจากที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว กลยุทธ์นี้ช่วยให้ร้านนวดแผนไทยยังคงสามารถดำเนินธุรกิจได้แม้ในช่วงวิกฤต

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
กิจกำแหง โ. (2025). การบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ร้านนวดแผนไทยของผู้พิการทางสายตาในช่วง COVID-19. วารสารสหวิทยาการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 8(3), 1188–1201. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/jmhs1_s/article/view/279184
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กัญญาพัชร์ พัฒนาโภคินสกุล และ นิมิต ซุ้นสั้น. (2567). แนวทางการจัดการความเสี่ยงสำหรับธุรกิจสปา. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 13(3), 314–327. สืบค้นจาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jssr/article/view/261568

ข่าวหุ้น ออนไลน์. (30 กันยายน 2564). ลมหายใจธุรกิจสปา ที่ประชุม ศบค. เห็นชอบว่าด้วยเรื่องข้อเสนอปรับมาตรการสำหรับ 9 กิจกรรมและกิจการในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่สามารถเปิดให้บริการได้. สืบค้นจาก https://www.kaohoon.com/column/481402

ชนิญญา ชัยสุวรรณ และ ทรงคุณ จันทจร. (2561). แนวทางการพัฒนาผู้ให้บริการนวดแผนไทยในสถานบริการสุขภาพของสมาคมแพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 6(1), 189-199. สืบค้นจาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/journal-peace/article/download/97071

ทวี เชื้อสุวรรณทวี และ รติรส จันทร์สมดี. (2566). ปัญหาและข้อท้าทายของคนพิการและผู้ดูแลในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19: การวิจัยเชิงคุณภาพ. วารสารสังคมสงเคราะห์ศาสตร์และการบริหารสังคม, 31(1), 118–155. สืบค้นจาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/swjournal/article/view/260798

ธนพงษ์ ร่วมสุข และ พรธิภา องค์คุณารักษ์. (2564). กรณีศึกษาการจัดการความเสี่ยงในธุรกิจสปาและนวดเพื่อสุขภาพเพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019. วารสารสหศาสตร์ศรีปทุม ชลบุรี, 7(2), 34-51.สืบค้นจาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/ISCJ/article/view/253818

บัญชา จันทราช, ปรีชา ปาโนรัมย์, ธนกร เพชรสินจร และ ชุมพล รอดแจ่ม. (2561). ธุรกิจนวดแผนไทยและความสำเร็จในการช่วงชิงความได้เปรียบด้านความโดดเด่นทางเศรษฐกิจของการท่องเที่ยวในเมืองนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์. วารสารสหวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, 1(2), 65-73. สืบค้นจาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journalfms-thaijo/article/view/248811

ประเวศน์ มหารัตน์สกุล. (2560). กลยุทธ์การวางแผนและการจัดการ. กรุงเทพฯ: ปัญญาชน.

ภัชลดา สุวรรณนวล. (2560). การจัดการเชิงกลยุทธ์. กรุงเทพฯ: ทริปเพิ้ล เอ็ดดูเคชั่น.

มณี สุขประเสริฐ, เจนจิรา สลีวงค์, และ พรรณพร กะตะจิตต์. (2565). Photo Book COVID-19 2563- 2564 เหตุการณ์ระทึกโลก. นนทบุรี: กองนวัตกรรมและวิจัย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. สืบค้นจาก https://ddc.moph.go.th/uploads/publish/1182520220817052704.pdf

องอาจ นัยพัฒน์. (2551). วิธีวิทยาการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรงเทพฯ: สามลดา.

Armstrong, M. (2014). Armstrong's handbook of human resource management practice. (13th ed.). London: Kogan Page.

Coombs, W. T. (2007). Ongoing crisis communication: Planning, managing, and responding. (2nd ed.). Washington DC: Sage Publications.

Dessler, G. (2020). Human resource management. (16th ed.). London: Pearson.

Kahneman, D., & Tversky, A. (1979). Prospect theory: An analysis of decision under risk. Econometrica, 47(2), 263–291. https://doi.org/10.2307/1914185

Parasuraman, A., Zeithaml, V. A., & Berry, L. L. (1985). A conceptual model of service quality and its implications for future research. Journal of Marketing, 49(4), 41–50. https://doi.org/10.1177/002224298504900403

Robbins, S. P., & Judge, T. A. (2007). Organizational behavior. (12th ed.). New Jersey: Prentice Hall.

Smith, A. (1776). An inquiry into the nature and causes of the wealth of nations. London: W. Strahan and T. Cadell.

von Neumann, J., & Morgenstern, O. (1944). Theory of games and economic behavior. New Jersey: Princeton University Press.