การวิเคราะห์องค์ประกอบ: ปัญหาการทำวิจัยของนักศึกษาบริหารธุรกิจ ระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยถือเป็นรายวิชาหนึ่งของหลักสูตรทางบริหารธุรกิจในระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ
ซึ่งนักศึกษาได้ดำเนินงานฝึกปฏิบัติจริงตามกระบวนการขั้นตอนต่าง ๆ ของการทำวิจัย ปัญหาการวิจัยจึงเกิดขึ้น ตั้งแต่
การกำหนดปัญหาการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ จนถึงการแปลผลและการอภิปรายผลการวิจัย งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบของปัญหาการทำวิจัยของนักศึกษาบริหารธุรกิจระดับปริญญาตรี กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาที่ผ่านการเรียนรายวิชาวิจัย หรือกำลังเรียนรายวิชาวิจัยจำนวน 729 คน จากมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ โดยวิธีสุ่มแบบเจาะจง
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับอยู่ที่ 0.971 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์องค์ประกอบ ทั้งนี้ มีแบบสอบถามที่สมบูรณ์ สามารถนำไปวิเคราะห์ได้ จำนวน 686 ฉบับ ผลการศึกษา พบว่า ปัญหาการทำวิจัยของนักศึกษา มี 2 องค์ประกอบ ได้แก่ ปัจจัยการกำหนดประเด็นในการทำวิจัย และปัจจัยการดำเนินงานวิจัย และเมื่อวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันทั้ง CFA with Continuous Factor Indicators และ Second-Order Factor Analysis ยืนยันใน 2 องค์ประกอบ เช่นกัน โดยเรื่องการเก็บรวบรวมข้อมูล ถือเป็นปัญหาในการทำวิจัยมากที่สุด รองลงมา คือ เรื่องข้อมูลงานวิจัยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีไม่เพียงพอ และเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูล ตามลำดับ ข้อสนเทศที่ได้จากงานวิจัยนี้ สะท้อนให้หลักสูตรทางบริหารธุรกิจระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ ควรต้องทบทวนเรื่องการเก็บรวบรวมข้อมูลการทำวิจัยของนักศึกษา เพื่อให้การทำวิจัยของนักศึกษาเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล นอกจากนี้ควรเพิ่มฐานข้อมูลงานวิจัยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้เพียงพอ และเสริมทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัย เพื่อให้นักศึกษาได้มีฐานข้อมูลที่เพียงพอเหมาะสม รวมถึงเพื่อเป็นการสร้างทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยอย่างถูกต้องและเหมาะสมต่อไป
Article Details
- ผู้เขียนต้องยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กองบรรณาธิการวารสารกำหนด และผู้เขียนต้องยินยอมให้บรรณาธิการ แก้ไขความสมบูรณ์ของบทความได้ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนเผยแพร่
- ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียน แต่วารสารเทคโนโลยีภาคใต้คงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตีพิมพ์ครั้งแรก โดยเหตุที่บทความนี้ปรากฏในวารสารที่เข้าถึงได้จึงอนุญาตให้นำบทความไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา แต่มิใช่เพื่อการพาณิชย์
เอกสารอ้างอิง
Aaker, D.A., Kumar, V., & Day, G. S. (2001). Marketing Research (7th ed.). New York: John Wiley and Sons.
Burns, N., & Grove, S. K. (1993). The Practice of Nursing Research: Conduct, Critique, & Utilization (4th ed.). Philadelphia: W.B. Saunders Company.
Cooper, D. R. & Schindler, P. S. (2014). Business Research Methods (12th ed). New York: McGraw-Hill
Goffin, R. D. (2007). Assessing the adequacy of structural equation model: golden rules and editorial policy. Personality and Individual Differences, 42, 831-839.
Hair, J. F., Black, W. C., Babin, B. J., & Anderson, R. E. (2010). In Global (7th ed). Multivariate Data Analysis: A Global Perspective. New Jersey: Pearson.
Kelloway, E.K. (2015). Using Mplus for Structural Equation Modeling; A Researcher’s Guide. CA: Sage Publications.
Kerlinger, F. N. (1986). Foundations of Behavioral Research (3rd ed.). USA: Hort, Rinehart and Winson. Khwannan, J. (2016). A Study of the Problem of Research Conducting and Development Guidelines of Research Quality of Graduate Diploma in Teacher Profession of Students of Faculty of Education, Kamphaengphet Rajabhat University, The 3rd National Conference, Kamphaengphet Rajabhat University, 60-68.
Likert, R. (1932). A technique for the measurement of attitudes. Archives of Psychology, 140, 1-55.
Thabwichian, N. (2018). Problems and Guided Development the Library of Secondary School in Banbung District Chonburi Province under Secondary Educational Service Area Office 18 (Master’s Thesis). Burapaha University. [in Thai]
Supantawee, S., & Chairatana, P. (2018). Problems and obstacles in thesis writing for the political science graduate students in master of arts special program, Kasetsart University. Journal of Interdisciplinary Research: Graduate Studies, 7(1), 198-203.
Steiger, J. H. (2007). Understanding the limitation of global fit assessment in structural equation modeling. Personality and Individual Differences, 42, 893-898.