โครงข่ายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตําบลเขาพระ อําเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช

Abstract

โครงข่ายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตําบลเขาพระ อําเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช

         การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสํารวจและรวบรวมข้อมูลพื้นฐานแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ตําแหน่งที่ตั้ง และโครงข่ายการ คมนาคมเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวในโครงข่ายการท่องเที่ยว ตําบลเขาพระ อําเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช ตลอดจนวิเคราะห์และ ประเมินศักยภาพ โอกาส ข้อจํากัด การจัดลําดับความสําคัญของแหล่งท่องเที่ยว ในการพัฒนาเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยว และเส้นทาง ท่องเที่ยวแบบโครงข่าย ดําเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการทบทวนเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ประชุมเวทีชาวบ้าน และสํารวจ ข้อมูลในพื้นที่ศึกษา โดยใช้เครื่องมือจับพิกัดดาวเทียม (GPS) แบบสังเกตการณ์ และแบบประเมินตัวชี้วัดมาตรฐานและศักยภาพการ ท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ผลการประเมินพบว่า ด้านมาตรฐานของพื้นที่มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.12 (ระดับปานกลาง) ด้านมาตรฐานของการ จัดการ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 1.91 (ระดับปานกลาง) ด้านศักยภาพทางการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.02 (ระดับปานกลาง) ทรัพยากรท่องเที่ยวที่มีศักยภาพโดดเด่น ได้แก่ โครงการอุตสาหกรรมโรงงานเซรามิก สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ อ่างเก็บน้ําคลองดิน แดง และพระพุทธสิหิงค์มิ่งมงคล การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของแหล่งท่องเที่ยว พบว่า จุดแข็งของแหล่ง ท่องเที่ยวตําบลเขาพระ คือ มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม และมีการจัดกิจกรรมประจําปีที่เป็นเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรม จุดอ่อน คือ แหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวไม่มีความหลากหลายในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ขาดแคลนบุคลากรทางการท่องเที่ยว และ องค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชน แต่มีโอกาส คือ มีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงที่สามารถเชื่อมโยงกันได้ และมี หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ ด้านอุปสรรค คือ แหล่งท่องเที่ยวในตําบลเขาพระไม่ได้รับการบันทึกลง ในฐานข้อมูลการท่องเที่ยว ส่งผลต่อด้านการประชาสัมพันธ์ จึงทําให้ไม่เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยว  การวิจัยนี้สามารถพัฒนาเป็นโปรแกรมการท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวแบบโครงข่าย แบ่งเป็น 4 โปรแกรมตาม ระยะเวลาในการท่องเที่ยว คือ ครึ่งวัน หนึ่งวัน สองวันหนึ่งคืน และสามวันสองคืน โดยมีความเหมาะสมกับกลุ่มองค์กรเพื่อการศึกษา ดูงาน กลุ่มนักเดินป่าและศึกษาธรรมชาติ กลุ่มนักท่องเที่ยวทัศนาจรทั่วไป และกลุ่มนักเรียนนักศึกษา 

Sustainable Tourism Networking System of Khao Phra, Phipoon, Nakhon Si Thammarat 

          This research aims to explore and gather data on sustainable tourism, locations and accessible tourism transportation network in Phipun district, Nakhon Si Thammarat province. Analysis and evaluation of the district’s tourism potential, opportunities, threats as well as prioritization of tourist attractions in order to develop tourism routes and network, are also included. The authors reviewed relevant research, held a meeting with local people, did a site survey using Global Positioning System (GPS), observation form and a questionnaire assessing standards evaluation criteria and potential of the sustainable tourism. From the survey, it is found that the location standard has a mean of 2.12 (average). That of management standards has a mean of 1.91 (average). The mean score on the potential of sustainable tourism is 2.02 (average). The outstanding tourism resources include Ceramic Project of Chulabhorn Research Institute, Klong Din Daeng reservoir and Phra Buddha Sihing Ming Mongkol buddha image. Analysis of strengths, weaknesses, opportunities and threats found that the strengths of the district include its beautiful landscape and its unique annual events that support tourism. The weaknesses include lack of attractive tourist sites and diverse tourism activities, lack of tourism staff to facilitate communication and provide security to visitors and, lack of tourism management knowledge and tourism impact management. The opportunities include tourist attractions in the adjacent areas that can be interlinked, support from both public and private sectors. The analysis of threats found that there has been no recorded data on some tourist sites and lack of publicity for the tourists. This research can be integrated for linking network in developing tourism program for the 4 types of tour program duration: half day, 1 day, 2 days 1 night and 3 days 2 nights which are suitable for incentive group, trekking and nature-based study group, general tourists group and students group.