ผลการจัดการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองต่อการรับรู้ทักษะทางปัญญา ของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 รายวิชาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ 3 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ตรัง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบการรับรู้ทักษะทางปัญญาของนักศึกษาพยาบาลก่อนและหลังการจัดการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองและเพื่อเปรียบเทียบการรับรู้ทักษะทางปัญญาของนักศึกษาพยาบาลระหว่างกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองกับกลุ่มที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน นักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ที่ลงทะเบียนเรียน วิชาการพยาบาลบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ3 ในปีการศึกษา 2560 จำนวน 72 คน เป็นกลุ่มควบคุม 36 คน กลุ่มทดลอง 36 คน โดยกลุ่มควบคุมได้รับการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียน กลุ่มทดลองได้รับการจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนร่วมกับการใช้สถานการณ์จำลอง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม แบบประเมินการรับรู้ทักษะทางปัญญาของนักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 ท่าน ได้ค่า IOC เท่ากับ 1.00 และมีค่าความเที่ยงสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค เท่ากับ .94 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการการแจกแจงความถี่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที (dependent t-test และ Independent t-test) ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ค่าคะแนนการรับรู้ทักษะทางปัญญาของนักศึกษาพยาบาลก่อนจัดการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลองน้อยกว่าหลังการจัดการเรียนการสอนโดยใช้สถานการณ์จำลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 19.076, p < .05) 2. ค่าคะแนนการรับรู้ทักษะทางปัญญาของนักศึกษาพยาบาลกลุ่มทดลองมากกว่ากลุ่มควบคุม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (t = 11.190, p < .05) จากผลการวิจัยนี้ แสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์จำลอง ช่วยให้นักศึกษาเข้าใจเนื้อหาที่ซับซ้อนทางการพยาบาล เกิดผลสัมฤทธิ์ที่ดีทางการเรียนที่มีประสิทธิภาพ