ความต้องการกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก ในจังหวัดบุรีรัมย์

ผู้แต่ง

  • Apinya Pomtom Master of Education in Lifelong Education and Human Development, Faculty of Education, Silpakorn University
  • Panpat Plungsricharoensuk Master of Education in Lifelong Education and Human Development, Faculty of Education, Silpakorn University
  • Pattarapol MahaKan Master of Education in Lifelong Education and Human Development, Faculty of Education, Silpakorn University

คำสำคัญ:

ความต้องการ, กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต, อ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก ในจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นการวิจัยแบบสำรวจ (Survey Research ) เก็บข้อมูลจากประชากร 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) ผู้ใช้บริการที่เป็นประชาชน ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มากที่ครอบคลุม 3 ตำบล ประชากรจำนวน 6,549 คน ผู้วิจัยใช้ตารางสำเร็จรูปของทาโร่ ยามาเน่ กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ระดับความเชื่อมั่น 95% และระดับความคลาดเคลื่อนที่ 5% ทำให้ได้จำนวน 378 คน ทั้งนี้ผู้วิจัยเก็บข้อมูลทั้งหมด 400 คน และใช้การสุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ เก็บข้อมูลโดยการสอบถาม 2) ผู้ให้บริการ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานที่ให้บริการหรือจัดกิจกรรมที่จัดขึ้นในพื้นที่อ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มากทั้งหมด 6 หน่วยงาน คัดเลือกแบบเจาะจง หน่วยงาน/องค์กรละ 1 คน รวมเป็น 6 คน เก็บข้อมูลโดยการสอบถามและการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ผู้ใช้บริการมีความต้องกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มากทุกกิจกรรมโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x ̅ = 4.40 ) กิจกรรมเดินวิ่งศึกษาธรรมชาติมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x ̅ = 4.60) เนื้อหาการเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นแหล่งน้ำที่มีสำคัญความต้องการในระดับมากที่สุด (x ̅ = 4.35 ) ค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ การใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนจากแหล่งน้ำ (x ̅ =4.50) เนื้อหาการเรียนรู้เกี่ยวกับสถานภาพทางชีวภาพ มีความต้องการโดยเฉลี่ยในระดับมาก (x ̅ =4.34 ) และเนื้อหาที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ความหลากหลายทางชีวภาพป่าไม้ (x ̅ =4.34 ) วิธีการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่มีความต้องการในระดับมากและมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x ̅ =4.41 ) คือ การจัดทัศนศึกษา (x ̅ =4.55 ) สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ที่มีความต้องการในระดับมากที่สุด (x ̅ =4.45 ) และมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ป้ายนิเทศ (x ̅ =4.60 ) สำหรับผู้ให้บริการพบว่า มีความต้องกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มากทุกกิจกรรมโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x ̅ =4.33) กิจกรรมเดินวิ่งศึกษาธรรมชาติมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x ̅ =4.50) เนื้อหาการเรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นแหล่งน้ำสำคัญที่มีความต้องการในระดับมากที่สุด (x ̅ =4.44) และมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ได้แก่ การอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ (x ̅ =4.67) และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนจากแหล่งน้ำ (x ̅ =4.67) เนื้อหาการเรียนรู้เกี่ยวกับสถานภาพทางชีวภาพ (x ̅ =4.43 ) ที่มีความต้องการในระดับมากที่สุดและมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ความรู้เกี่ยวกับการห้ามล่าสัตว์ป่า ความเป็นมาความสำคัญและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง (x ̅ =4.67 ) วิธีการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตมีความต้องการในระดับมาก (x ̅ =3.86 ) และมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การบอกเล่า การบรรยายผ่านผู้รู้วิทยากร (x ̅ =4.33 ) และการใช้สื่อวีดิทัศน์ (x ̅ =4.33 ) สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ที่มีความต้องการในระดับมาก (x ̅ =4.04) และมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (x ̅ =4.50 ) การบริหารจัดการที่มีความต้องการในระดับมาก (x ̅ =4.42) และมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ สื่อและอุปกรณ์ในการจัดกิจกรรม ( x ̅ =4.67 )

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2021-04-16

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (Research article)