การนิเทศการศึกษาของผู้บริหารโรงเรียนกับการปฏิบัติงานด้านวิชาวิชาการของครูโรงเรียนสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 21 หนองคาย-บึงกาฬ
คำสำคัญ:
การนิเทศการศึกษา, การปฏิบัติงานวิชาการในโรงเรียนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการนิเทศการศึกษาของผู้บริหารโรงเรียนสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 21 หนองคาย-บึงกาฬ 2) ศึกษาการปฏิบัติงานด้านวิชาวิชาการของครูโรงเรียนสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 21 หนองคาย-บึงกาฬ และ 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการนิเทศการศึกษาของผู้บริหารโรงเรียนกับการปฏิบัติงานด้านวิชาวิชาการของครูโรงเรียนสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 21 หนองคาย-บึงกาฬ โดยศึกษาตัวอย่างจากครูโรงเรียนสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 21 หนองคาย-บึงกาฬ จำนวน 4 โรงเรียน ครู จำนวน 152 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับการนิเทศการศึกษาของผู้บริหารโรงเรียนสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 21 หนองคาย-บึงกาฬ ตามแนวคิดของ ของกลิคแมน และงานวิชาการของสถานศึกษาตามระเบียบการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่เป็นนิติบุคคล ของกระทรวงศึกษาธิการ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ ของเพียร์สัน ผลการวิจัย พบว่า การนิเทศการศึกษาของผู้บริหารโรงเรียนสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 21 หนองคาย - บึงกาฬโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ทั้ง 5 ด้าน โดยเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านการพัฒนาวิชาชีพ ด้านการพัฒนาหลักสูตร ด้านการพัฒนากลุ่ม ด้านการวิจัยเชิงปฏิบัติการ และด้านการให้ความช่วยเหลือครูโดยตรง ตามลำดับ การปฏิบัติงานด้านวิชาวิชาการของครูโรงเรียนสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 21 หนองคาย-บึงกาฬ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากโดยอยู่ในระดับมากทั้ง 12 ด้าน โดยการพัฒนาแหล่งการเรียนรู้และส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้ และการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ส่วนการประสานความร่วมมือในการพัฒนาวิชาการกับสถานศึกษาและองค์กรอื่นมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด ความสัมพันธ์ระหว่างการนิเทศการศึกษาของผู้บริหารโรงเรียนกับการปฏิบัติงานด้านวิชาวิชาการของครูโรงเรียนสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา 21 หนองคาย-บึงกาฬ มีความสัมพันธ์กันในระดับค่อนข้างสูง มีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ ระดับ .01 และมีความสัมพันธ์กันในทางบวก