กลยุทธ์การสื่อสารทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562
คำสำคัญ:
กลยุทธ์การสื่อสาร, การสื่อสารทางการเมือง, พรรคอนาคตใหม่บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์สำคัญคือ 1. เพื่อศึกษากลยุทธ์การสื่อสารทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ในการหาเสียงเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 และ 2. เพื่อศึกษาแนวทางการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอนาคตใหม่ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลหลัก 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 กลุ่มตัวอย่างองค์กรทางการเมือง จำนวน 7 คน กลุ่มที่ 2 กลุ่มสื่อมวลชนจำนวน 5 คน กลุ่มที่ 3 กลุ่มประชาชนหรือพลเมืองจำนวน 10 คน รวมทั้งสิ้น 22 คน และนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้นำมาวิเคราะห์เชิงพรรณนาพร้อมสรุปและอภิปรายผล จากการศึกษาผลการศึกษา พบว่ากลยุทธ์การสื่อสารทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่ในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 พบว่าพรรคนำนโยบายและสร้างภาพลักษณ์ของผู้รับสมัครเลือกตั้งเปรียบเสมือนการแข่งขันการขายสินค้าทางการเมือง โดยใช้หลักการตลาดเทคนิคและกลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่งเป้าหมายคือการสนับสนุนจากประชาชน ดึงความสนใจจากประชาชนให้เห็นคล้อยตามกับแนวคิดของพรรค ใช้ช่องทางการสื่อสารสมัยใหม่ เช่น Facebook, Instagram, You tube ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Facebook live มีสาระน่าสนใจและน่าติดตาม ใช้สื่อเพื่อเปิดรับฟังปัญหาต่าง ๆ ของประชาชนอย่างกว้างขวาง แนวทางการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอนาคตใหม่ พบว่าได้นำแนวคิดการตลาดทางการเมือง การขายนโยบายของพรรคการเมืองที่ใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไว้วางใจและเชื่อมั่นในพรรคการเมือง แนวทางที่สำคัญคือการจำแนกส่วนทางการตลาดกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การวางตำแหน่งของตัวผู้สมัครรับการเลือกตั้ง หรือ พรรคการเมือง และกลยุทธ์การตลาดทางการเมือง และจำแนกกลยุทธ์การตลาดทางการเมือง ได้แก่ผลิตภัณฑ์ทางการเมือง การตลาดแบบผลักดัน การตลาดแบบจูงใจ และการหยั่งเสียง พร้อมทั้งนำปัจจัยที่ส่งผลกระทบมาเป็นปัจจัยสนับสนุนไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านเทคโนโลยี ปัจจัยด้านโครงสร้างทางการเมือง และปัจจัยแห่งอำนาจเป็นต้น ซึ่งจากกลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนเป็นจำนวนมาก