การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่อง โจทย์ปัญหาเศษส่วน ตามแนวคิดแก้ปัญหาของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้แต่ง

  • ชลิตดา ศิริธรรม คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์น
  • กรรณิการ์ ทองรักษ์ คณะศึกษาศาสตร์ วิทยาลัยนอร์ทเทิร์น
  • ดร.ประจบ ขวัญมั่น คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร

คำสำคัญ:

ความสามารถในการแก้ปัญหา, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1)  สร้างและหาประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่อง โจทย์ปัญหาเศษส่วน ตามแนวคิดแก้ปัญหาของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน  75/75 2)  เปรียบเทียบความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์  ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 3)  เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์  ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และ  เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้  เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านห้วยกุ้ง  จำนวน  7  คน  เครื่องมือที่ใช้ในวิจัยครั้งนี้  1)  แผนการจัดการเรียนรู้การแก้โจทย์ปัญหาตามขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาของโพลยา  2)  แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ และ 4)  แบบประเมินความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล  ได้แก่ ค่าเฉลี่ย  ค่าร้อยละ  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าทีแบบกลุ่มเดียว  และการทดสอบสมมุติฐานด้วย T-test ผลการวิจัย พบว่า 1.   ประสิทธิภาพของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เรื่อง โจทย์ปัญหาเศษส่วน ตามแนวคิดแก้ปัญหาของโพลยา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6  มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดคือ 85.79/77.85   2.  ความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์  ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 21.71 และผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 38.29 ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้  3.  ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์  ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 6.14 และผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 15.57 ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้  และ  4.  ความพึงพอใจของนักเรียน  อยู่ในระดับมากที่สุด

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-03-03

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย (Research article)