the การพัฒนาแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบสตีมศึกษา (STEAM) ในสถานศึกษา สังกัดเทศบาลเมืองอ่างทอง

บทคัดย่อ

บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบสตีมศึกษา 2) หาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบสตีมศึกษา และ 3) ศึกษาความเหมาะสม และความเป็นไปได้ในการนำแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบสตีมศึกษา ไปใช้ในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การวิจัยแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบประเมินความสอดคล้อง และแบบประเมินความเหมาะสม สถิติที่ใช้ คือ ค่าความตรงเชิงเนื้อหา ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และขั้นตอนที่ 2 ศึกษาความเหมาะสม และความเป็นไปได้ในการนำแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ ประชากร ได้แก่ ครูผู้สอนในระดับปฐมวัยของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดเทศบาลเมืองอ่างทอง จำนวน 65 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่นด้านความเหมาะสม เท่ากับ 0.92 และด้านความเป็นไปได้ เท่ากับ 0.92 สถิติที่ใช้ คือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย พบว่า 1) การพัฒนาแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบสตีมศึกษาที่สามารถนำไปใช้ได้ จำนวน 20 แผน     2) ผลการหาประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับดีมาก และ 3) ความเหมาะสม และความเป็นไปได้ในการนำแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบสตีมศึกษาไปใช้ในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด