การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาพระพุทธศาสนา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
คำสำคัญ:
การจัดการเรียนรู้, อิทธิบาท 4, ผลสัมฤทธิ์บทคัดย่อ
การวิจัยเป็นการวิจัยเชิงทดลองขั้นต้น มีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อศึกษาการจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 รายวิชาพระพุทธศาสนา 2. เพื่อศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 รายวิชาพระพุทธศาสนาและเพื่อเสนอแนะข้อมูลการจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 3. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาพระพุทธศาสนา ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวัดสุทธจินดา จังหวัดนครราชสีมา, กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 จำนวน 1 ห้องเรียน นักเรียน 25 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในกาวิจัย ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาพระพุทธศาสนา โดยได้กำหนด จำนวน 2 แผน และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 จำนวน 30 ข้อ ผลการวิจัยดังกล่าว พบว่า
1. ผลการศึกษาการจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาพระพุทธศาสนา ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวัดสุทธจินดา จังหวัดนครราชสีมา พบว่า การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนรักในการเรียนรู้ หรือมุ่งเน้นให้ผู้เรียนรู้จักพัฒนาตนเองให้ถึงความสำเร็จ มีอยู่ 4 ข้อ ซึ่งประกอบด้วย ฉันทะ มีความชื่นชอบความสนใจ ปรารถนาที่จะเรียนรู้สิ่งนั้น ๆ ให้ได้ผลงานที่ดีและมีคุณภาพ วิริยะ งานทุกอย่างจะสำเร็จได้เพราะมีความเพียรพยายาม ความเพียรนั้นจะต้องเกิดจากความพอใจ คือ ความพยายามทำงานเมื่อได้รับงานที่มอบหมายให้จิตตะ มีความรอบคอบและความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายให้ วิมังสา หมั่นทบทวนและตรวจสอบงานที่ได้รับมอบหมายเพื่อให้มีความสมบูรณ์ต่องานที่ทำ ยิ่งๆ ขึ้นไป 2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามหลักอิทธิบาท 4 เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาพระพุทธศาสนาของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวัดสุทธจินดา จังหวัดนครราชสีมา คะแนนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย () = 12.60 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 2.082 คะแนนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย () = 24.32 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) = 3.105 เมื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า หลังเรียนมีคะแนนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้