การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรื่องการเปลี่ยนแปลงของสารในชีวิตประจำวันของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสุเหร่าใหม่ ที่สอนโดยใช้หนังสือแบบฝึกทักษะกับการสอนแบบปกติ

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของหนังสือแบบฝึกทักษะ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างการสอนโดยใช้หนังสือแบบฝึกทักษะกับการสอนแบบปกติ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการสอนโดยใช้หนังสือแบบฝึกทักษะ กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนสุเหร่าใหม่ เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร จำนวน 41 คน โดยการสุ่มอย่างง่าย ด้วยวิธีจับสลาก แบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มทดลองที่เรียนโดยใช้หนังสือแบบฝึกทักษะ จำนวน 20 คน 2) กลุ่มควบคุมที่เรียนโดยการสอนแบบปกติจำนวน 21 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) หนังสือแบบฝึกทักษะจำนวน 8 เล่ม 2) แผนการสอนที่ใช้หนังสือแบบฝึกทักษะ จำนวน 8 แผน 3) แผนการสอนแบบปกติ จำนวน 8 แผน และ4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ จำนวน 30 ข้อ มีคุณภาพด้านความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา ดังนี้ มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.37 – 0.77  ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.20-0.80 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .94 5) แบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การทดสอบค่า t-test  ผลการวิจัย พบว่า 1) หนังสือแบบฝึกทักษะมีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.75/81.83 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สอนโดยใช้หนังสือแบบฝึกทักษะสูงกว่านักเรียนที่ได้รับการสอนแบบปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการใช้หนังสือแบบฝึกทักษะ มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.50 อยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด