ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับนวัตกรรมทางการเงินโมบาย แบงก์กิ้ง (Mobile banking) ของผู้ที่มาใช้บริการธนาคารออมสินในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คำสำคัญ:
การยอมรับ, นวัตกรรมทางการเงิน, โมบาย แบงก์กิ้ง, ธนาคารออมสินบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยคุณลักษณะของนวัตกรรม 2) ศึกษาการยอมรับนวัตกรรม 3) เปรียบเทียบการยอมรับนวัตกรรม จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 4) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยคุณลักษณะของนวัตกรรม กับการยอมรับนวัตกรรมทางการเงินโมบาย แบงก์กิ้ง กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ที่มาใช้บริการธนาคารออมสินในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 384 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกตัวอย่างแบบบังเอิญ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่น ด้านปัจจัยคุณลักษณะของนวัตกรรม เท่ากับ 0.97 และด้านการยอมรับนวัตกรรม เท่ากับ 0.95 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว การทดสอบแอลเอสดี และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยคุณลักษณะของนวัตกรรมในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 4.47, S.D. = 0.53) โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการสังเกตเห็นผลได้ ( = 4.55, S.D. = 0.57) รองลงมา คือ ด้านความเข้ากันได้ ( = 4.53, S.D. = 0.57) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านความซับซ้อน ( = 4.35, S.D. = 0.67) 2) การยอมรับนวัตกรรมในภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ( = 4.49, S.D. = 0.56) โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการรับรู้ถึงประโยชน์ ( = 4.53, S.D. = 0.58) รองลงมา คือ ด้านการรับรู้ความง่ายต่อการใช้ ( = 4.45, S.D. = 0.59) 3) ผู้ที่มาใช้บริการธนาคารออมสินที่มีอายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา และ รายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกัน มีการยอมรับนวัตกรรม ในภาพรวม แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 4) ปัจจัยคุณลักษณะของนวัตกรรม มีความสัมพันธ์ทางบวก กับการยอมรับนวัตกรรมทางการเงินโมบาย แบงก์กิ้งของผู้ที่มาใช้บริการธนาคารออมสิน ในภาพรวมอยู่ในระดับสูง (r = .914)