แนวทางการพัฒนาบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คำสำคัญ:
การพัฒนา, การบริหารงาน, หลักธรรมาภิบาลบทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 3) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กลุ่มตัวอย่างคือประชาชนผู้ที่มารับบริการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.928 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การทดสอบค่าเอฟ และการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีการแอลเอสดีผลการวิจัยพบว่า 1. ความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในภาพรวมมีความคิดเห็นในระดับมากที่สุด และเมื่อวิเคราะห์เป็นรายด้านพบว่า ด้านหลักนิติธรรม ด้านหลักคุณธรรม ด้านหลักการมีส่วนร่วม ด้านหลักความรับผิดชอบ และด้านหลักความคุ้มค่า อยู่ในระดับมากที่สุด และด้านหลักความโปร่งใส อยู่ในระดับมาก 2. ประชาชนที่มีอายุ อาชีพ และรายได้ต่อเดือนแตกต่างกัน มีความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 3. แนวทางการพัฒนาการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในภาพรวมมีความคิดเห็นในระดับมากที่สุด และเมื่อวิเคราะห์เป็นรายด้านพบว่า ด้านการอำนวยการความยุติธรรม ด้านการรักษาความมั่นคง ด้านการบังคับบัญชาและประสานงาน และด้านการรับมือช่วยเหลืออยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน