การบริหารเชิงกลยุทธ์ในสภาวการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ของบุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในจังหวัดมุกดาหาร
คำสำคัญ:
การบริหาร, กลยุทธ์, โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันของการบริหารเชิงกลยุทธ์ 2) เปรียบเทียบการบริหารเชิงกลยุทธ์ จำแนกตามคุณลักษณะส่วนบุคคลของบุคลากร 3) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารเชิงกลยุทธ์ และ4) ศึกษาปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารเชิงกลยุทธ์ในสภาวการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของบุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ในจังหวัดมุกดาหาร เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 201 คน และผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 14 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสัมภาษณ์ และแบบสอบถามมาตราส่วนประเมินค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน, t - test, F- test, Multiple Regression Analysis และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) บุคลากรโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในจังหวัดมุกดาหาร มีระดับความคิดเห็นสภาพปัจจุบันด้านองค์ประกอบและด้านการบริหารเชิงกลยุทธ์ในสภาวการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก 2) เพศ อายุ สถานภาพสมรส ที่ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารเชิงกลยุทธ์ไม่แตกต่างกัน ส่วนระดับตำแหน่ง ระดับการศึกษา ระยะเวลาในการปฏิบัติงานและระดับเงินเดือนที่ต่างกัน มีความคิดเห็นในการบริหารเชิงกลยุทธ์ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 3) ปัจจัยที่มีผลต่อการบริหารเชิงกลยุทธ์ในสภาวการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้แก่ (1) การสอบสวนและควบคุมโรค (2) การจัดระบบกลไกเพื่อสนับสนุนการป้องกันและควบคุมโรค (3)การ ป้องกันโรค (4)เพศ (5)ระยะเวลาในการปฏิบัติงาน 4) ปัญหาอุปสรรค คือความร่วมมือของชุมชน สิ่งสนับสนุนในการดำเนินงานไม่เพียงพอและบุคลากรเหนื่อยล้าขาดขวัญกำลังใจ ข้อเสนอแนะ คือควรจัดสิ่งสนับสนุนให้เพียงพอมีการนิเทศติดตามอย่างต่อเนื่องและควรมีการให้ขวัญกำลังใจ ค่าตอบแทน และค่าความเสี่ยงตามภาระงาน