ปัญหาการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยของยุวมัคคุเทศก์เพื่อสื่อสารอัตลักษณ์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กรณีศึกษาโรงเรียนวัดบัวโรย
DOI:
https://doi.org/10.14456/arjla.2025.3คำสำคัญ:
การพัฒนาทักษะภาษาไทย, ยุวมัคคุเทศก์, อัตลักษณ์, การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยของยุวมัคคุเทศก์ในการสื่อสารอัตลักษณ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กรณีศึกษาโรงเรียนวัดบัวโรย รวมถึงเสนอแนวทางในการพัฒนาทักษะด้านภาษาไทย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายทอดเรื่องราวทางวัฒนธรรมให้กับนักท่องเที่ยว การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยเลือกกลุ่มตัวอย่างจากนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดบัวโรย จำนวน 20 คน ซึ่งเคยได้รับการอบรมหลักสูตรมัคคุเทศก์ไป สัมภาษณ์ครูผู้สอนในโรงเรียนวัดบัวโรย จำนวน 3 คน และบุคคลที่เกี่ยวข้องในชุมชน จำนวน 7 คน การวิจัยในครั้งนี้ ผู้วิจัยใช้วิธีสังเกต สอบถาม และสัมภาษณ์ โดยใช้ระยะเวลาเก็บข้อมูลหลังการอบรมหลักสูตรมัคคุเทศก์ เป็นเวลา 6 เดือน ผลการศึกษาพบว่าปัญหาหลักของยุวมัคคุเทศก์ ได้แก่ (1) ขาดความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับอัตลักษณ์ท้องถิ่น ทำให้การถ่ายทอดข้อมูลทางวัฒนธรรมขาดความถูกต้องและความน่าสนใจ (2) ทักษะการใช้ภาษาไทยไม่สอดคล้องกับการเป็นมัคคุเทศก์ เช่น การใช้คำศัพท์ที่ไม่ถูกต้อง ขาดความสามารถในการเล่าเรื่องให้น่าสนใจ (3) การขาดความมั่นใจและความสามารถในการสื่อสารต่อที่ประชุมชน ทำให้การนำเสนอขาดความคล่องแคล่ว (4) การขาดทักษะในการโต้ตอบและแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อต้องตอบคำถามที่หลากหลายจากนักท่องเที่ยว (5) ข้อจำกัดด้านแหล่งข้อมูลและสื่อการสอน บางครั้งแหล่งข้อมูลที่ใช้ฝึกอบรมให้กับยุวมัคคุเทศก์ อาจไม่ชัดเจน ไม่ครบถ้วน ไม่ครอบคลุม หรือไม่ทันสมัย และ (6) การขาดโอกาสในการฝึกฝนในสถานการณ์จริง ส่งผลให้ยุวมัคคุเทศก์ไม่สามารถนำทักษะที่เรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพแนวทางในการแก้ไขปัญหาการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยของยุวมัคคุเทศก์ ได้แก่ การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอัตลักษณ์ท้องถิ่น โดยการพัฒนาเนื้อหาการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ การพัฒนาเทคนิคการใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร โดยเฉพาะการฝึกฝนทักษะการฟังและการพูดในที่สาธารณะ การเสริมสร้างทักษะการโต้ตอบและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การจัดการแหล่งข้อมูลที่ทันสมัยและเข้าถึงง่าย และการเพิ่มโอกาสฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จริง โดยการสร้างหรือจัดให้มีโอกาสในการลงมือทำ และประสบกับสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมจริงมากที่สุด
เอกสารอ้างอิง
กิตต์กวินเดชน์ วงศ์หมั่น. (2564). รูปแบบการพัฒนาศักยภาพมัคคุเทศก์ท้องถิ่นอย่างมีส่วนร่วมของชุมชนท่องเที่ยวเมืองตาก อำเภอเมือง จังหวัดตาก. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์, 7(พิเศษ), 54-70.
ชลธิชา มาลาหอม.(2555). อัตลักษณ์ชุมชนรากฐานสู่การศึกษา. วารสารครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 9(1) 41.
ชำนาญ ม่วงทิม (2541) คู่มือมัคคุเทศก์. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ณรงค์ ฉายายนต์. (2536). การพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะด้านการบริหารสำหรับหัวหน้าแผนกวิชาในสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล. ปริญญานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร.
นริศรา เกตวัลห์ (2563) แนวทางการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทยของยุวมัคคุเทศก์ เพื่อสื่อสารอัตลักษณ์และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม: กรณีศึกษาโรงเรียนวัดบัวโรย. (รายงานวิจัย). สมุทรปราการ: มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ.
ปาจรีย์ ผลประเสริฐ. (2552). แผนงานวิจัยแนวทางการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อสะท้อนอัตลักษณ์จังหวัดกำแพงเพชร. ใน สักทองวารสารการวิจัย มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร, 15(2), 19-35.
ยุรฉัตร บุญสนิท. (2546). ลักษณะความสัมพันธ์ของวรรณกรรมกับสังคม. ใน พัฒนาการวรรณคดี (น. 65). นนทบุรี: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช.
สุชานาฏ สิตานุรักษ์. (2565). รูปแบบการพัฒนายุวมัคคุเทศก์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในชุมชน: กรณีศึกษาชุมชนเทศบาลตำบลหนองป่าครั่ง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. ใน พิฆเนศวร์สาร มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่, 18(2), 101–114.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารศิลปศาสตร์วิชาการและวิจัย (ออนไลน์)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารศิลปศาสตร์ปริทัศน์
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
