ปัญหาทางกฎหมายที่ทำให้เอกชนไม่สามารถเข้าประกอบกิจการบำบัดน้ำเสียรวมในจังหวัดมหาสารคาม

Main Article Content

สุภาพร พิทักษ์เผ่าสกุล

บทคัดย่อ

ปัจจุบันประเทศไทยมีระบบบำบัดนํ้าเสียรวมขนาดใหญ่ที่ได้จัดทำขึ้นโดยอาศัย งบประมาณจากภาครัฐเพียง 101 แห่ง เท่านั้น ซึ่งยังนับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณนํ้าเสียทั่วประเทศ จากการศึกษาพบว่า การจัดทำระบบบำบัดนํ้าเสียรวมโดยรัฐในจังหวัด มหาสารคามยังไม่ประสบความลำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากกฎหมายที่บังคับใช้เกี่ยวกับการจัดทำระบบบำบัดนํ้าเสียให้อำนาจในการจัดทำระบบบำบัดนํ้าเสียรวมเป็นหน้าที่หลัก ของภาครัฐ ทำให้กฎหมายไม่เอื้ออำนวยต่อการให้เอกชนเข้ามามีบทบาทในการประกอบกิจการบำบัดนํ้าเสียรวมโดยตรง ดังนั้น เพื่อเป็นการขจัดปัญหาและอุปสรรคในการเข้าประกอบกิจการบำบัดนํ้าเสียรวมสำหรับเอกชน จึงเสนอให้ปรับปรุงกฎหมายซึ่งอาจ ทำได้เป็น 2 กรณี คือ

  1.  พิจารณาออกกฎหมายลำดับรอง ในรูปแบบของกฎกระทรวงเกี่ยวกับ การประกอบกิจการบำบัดนํ้าเสียรวมสำหรับเอกชนตามมาตรา 73 วรรคสองและวรรคสี่ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535
  2.  พิจารณาออกกฎหมายเฉพาะ ในระดับพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการประกอบ กิจการบำบัดนํ้าเสียรวมสำหรับเอกซน เพื่อให้เอกซนสามารถเข้าประกอบกิจการนํ้าประปา และบำบัดนํ้าเสียร่วมกันได้

 

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
พิทักษ์เผ่าสกุล สุภาพร. “ปัญหาทางกฎหมายที่ทำให้เอกชนไม่สามารถเข้าประกอบกิจการบำบัดน้ำเสียรวมในจังหวัดมหาสารคาม”. วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร 5, no. 1 (พฤษภาคม 1, 2012): 29–48. สืบค้น ธันวาคม 27, 2025. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/lawnujournal/article/view/98787.
ประเภทบทความ
บทความวิชาการ
ประวัติผู้แต่ง

สุภาพร พิทักษ์เผ่าสกุล, อาจารย์ประจำวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

อาจารย์ประจำวิทยาลัยการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยมหาสารคาม