การพัฒนาความสามารถการอ่านและการเขียนแจกลูกสะกดคำภาษาไทย โดยการจัดการเรียนรู้แบบ PWIM ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
คำสำคัญ:
การอ่านและเขียนแจกลูกสะกดคำ, การจัดการเรียนรู้แบบ PWIM, พฤติกรรมการเรียนรู้บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาการจัดการเรียนรู้ด้านการอ่านและการเขียนแจกลูกสะกดคำภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ PWIM ที่มีประสิทธิภาพ 80/80 2) ศึกษาความสามารถด้านการอ่านและเขียนแจกลูกสะกดคำภาษาไทย โดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแบบ PWIM ระหว่างหลังเรียนเทียบกับเกณฑ์ร้อยละ 80 และ 3) ศึกษาพฤติกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านและการเขียนแจกลูกสะกดคำภาษาไทยของนักเรียนดยใช้การจัดการเรียนรู้ตามแบบ PWIM กลุ่มเป้าหมายได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 5 คน โรงเรียนบ้านเลิง จังหวัดขอนแก่น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่
1) แผนการการจัดการเรียนรู้แบบ PWIM 2) แบบทดสอบวัดความสามารถการอ่านและเขียนสะกดคำ และ 3) แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนของนักเรียนที่ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลวิจัยพบว่า 1) กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบ PWIM มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 87.17/87.00 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 2) ความสามารถด้านการอ่านและการเขียนสะกดคำภาษาไทยของนักเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 17.40 และมีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.14 คิดเป็นค่าร้อยละเฉลี่ยเท่ากับ 87.00 และนักเรียนทุกคนผ่านเกณฑ์การวัดความสามารถ คิดเป็นร้อยละ 100 และ 3) นักเรียนมีพฤติกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านและการเขียนแจกลูกสะกดคำภาษาไทย อยู่ในระดับดีมาก
References
ชัยยงค์ พรหมวงศ์. (2556). ประมวลสาระชุดวิชาการพัฒนาหลักสูตรและสื่อการเรียนการสอน. (พิมพ์ครั้งที่ 2).
กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ดนิตา ดวงวิไล. (2562). ภาษาและวัฒนธรรมสำหรับครู. มหาสารคาม: ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะ
ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ธาดาศักดิ์ วัชรปรีชาพงษ์. (2550). พฤติกรรมการอ่านของนักเรียนในกรุงเทพมหานคร. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัย
ศรีนครินทรวิโรฒ.
นนทิชา คำดวง. (2562). การพัฒนาความสามารถการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 โดยจัด
กิจกรรมการเรียนรู้แบบ PWIM. สืบค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2565. จาก http://qadata. rpu.ac.
th/wpcontent/uploads/2018/06/.
ปิลันธนา ศุภดล และคณะ. (2557). ผลการจัดการเรียนรู้ภาษาไทยโดยใช้ Picture Word Inductive Model
ที่มีผลต่อการอ่าน การเขียน และการแต่งประโยคของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ด้วยกระบวนการ
ศึกษาชั้นเรียน. รายงานการวิจัย ขอนแก่น: โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา
(ศึกษาศาสตร์).
ฝ่ายวิชาการ โรงเรียนบ้านเลิง. (2565). ผลการเรียนของนักเรียนโรงเรียนบ้านเลิง ปีการศึกษา 2565. ขอนแก่น:
โรงเรียนบ้านเลิง.
พูนสุข บุณย์สวัสดิ์. (2535). ของเล่นเด็ก หนูน้อยน่ารัก. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไพศาล วรคำ. (2564). การวิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 12). มหาสารคาม: ตักสิลาการพิมพ์.
วัดญาณเวศกวัน. (2566). ธรรมะกับการทำงาน. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2566. จาก https://www.watnya
naves.net/en/book-reading/218/16.
สง่า วงค์ไชย. (2562). Picture Word Inductive Model: รูปแบบการสอนอ่านและเขียนสำหรับเด็ก. กรุงเทพฯ:
ภาควิชาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
สาลินี ภูติกนิษฐ์. (2530). การศึกษาผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเขียนสะกคภาษาไทยของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่โรงเรียนโดยใช้เกมและไม่ใช้เกม. (วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต)
มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สุนิสา มามีสุข. (2565). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ
PICTURE WORD INDUCTIVE MODEL ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษา
ศาสตรมหาบัณฑิต) กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สุพัตรา ศรีธรรมมา และอุบลวรรณ ส่งเสริม. (2562). การพัฒนาความสามารถในการอ่านและการเขียนสะกดคำของ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต) นครปฐม: มหาวิทยาลัย
ศิลปากร.
อิศเรศ พิพัฒน์มงคลพร และวิไล พิพัฒน์มงคลพร. (2558). การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบพิคเจอร์เวิร์ด
Picture Word Inductive Model. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, 13(1), 17-22.
Calhoun, E.F. (1999). Teaching Beginning Reading and Writing with the Picture Word Inductive
Model. Virginia: ASCD.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความวิชาการและบทความวิจัยในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนเท่านั้น บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารบัณฑิตศาส์น ถือเป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์