Evidence-Based Policy within Thailand’s Reform Initiatives (2010-2013): Re-examination of limitations and biases

นโยบายบนฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ในกระบวนการปฏิรูปประเทศไทย (พ.ศ. 2553 – 2556): การทวนสอบข้อจำกัดและอคติ

บทคัดย่อ

ความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นของนโยบายบนฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ในสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี ค.ศ. 1999 ได้เปลี่ยนแปลงกระบวนการทางนโยบายจากเดิมที่ใช้ฐานคิดทางอุดมการณ์มาสู่ฐานการใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ เมื่อประเทศไทยได้เริ่มกระบวนการปฏิรูปช่วงปี ค.ศ. 2009 แนวทางของนโยบายบนฐานของข้อมูลเชิงประจักษ์จึงถูกประยุกต์ใช้ในกระบวนการปฏิรูป ในเชิงทฤษฎีนั้น อคติสองประเภทอาจพบได้ในกระบวนการทางนโยบาย ในขณะนี่ “อคติเชิงเทคนิก” ทำให้กระบวนการความรู้มีความเป็นการเมือง “อคติเชิงประเด็น” กลับทำให้กระบวนการทางนโยบายปลอดการเมือง วัตถุประสงค์ของบทความนี้มุ่งสืบค้นความท้าทายและโอกาสของแนวนโยบายบนฐานข้อมูลเชิงประจักษ์ภายใต้กระบวนการปฏิรูปของประเทศไทย มีการสำรวจและถกเถียงเกี่ยวกับข้อจำกัดและอคติในกระบวนการพัฒนานโยบายปฏิรูป และพบว่ามีทั้งอคติเชิงเทคนิกและอคติเชิงประเด็นดำรงอยู่ แม้ว่ากระบวนการปฏิรูปถูกคาดหวังให้เป็นพื้นที่ปรองดองสำหรับความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ อคติเชิงเทคนิกซึ่งนิยามความสำเร็จผ่านข้อเสนอเชิงนโยบายที่เกิดขึ้น ได้ละเลยกระบวนการทางการเมืองในฐานะพื้นที่สนทนาแลกเปลี่ยนเชิงนโยบาย การกีดกันผู้ขับเคลื่อนนโยบายความเหลื่อมล้ำทางการเมืองได้นำไปสู่ความไม่สมดุลของกระบวนการริเริ่มนโยบาย ซึ่งมีเพียงผู้ขับเคลื่อนนโยบายความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้นเอง ข้อเสนอเชิงนโยบายจึงมิได้เชื่อมโยงกับความต้องการหลักของสังคม นอกจากนี้ ประเด็นนโยบายที่ถูกเสนอโดยคนบางกลุ่มก็ไม่เชื่อมโยงกับประเด็นนโยบายโดยรวม เนื่องจากกระบวนการทบทวนข้อมูลความรู้เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการวิจัยทางนโยบาย ทำให้ประเด็นของกลุ่มประชากรชายขอบที่ไม่มีข้อมูลอยู่ในระบบทางการ และประเด็นทางยุทธศาสตร์สำคัญ หายไป อคติเชิงเทคนิกและอคติเชิงประเด็นทำให้เกิดการกีดกันกลุ่มประชากรจำนวนมากออกไปจากกระบวนการนโยบายปฏิรูป โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งเป็นกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ซึ่งมอบหมายให้เครือข่ายผู้สนับสนุนรัฐบาลหรือกลุ่มคนเสื้อเหลืองเป็นแกนหลักในสำนักงานปฏิรูปและสมัชชาปฏิรูป แม้ว่ากระบวนการทางนโยบายไม่อาจหลีกเลี่ยงข้อจำกัดและอคติดังกล่าวได้ การดำเนินงานด้วยความตระหนักต่อสิ่งเหล่านั้นอาจสร้างการเปลี่ยนแปลงจากเดิมได้