How gender equality belongs to us all? - Lesson learned from empowerment based work with Thai Grass Root Women
กว่าที่ความเป็นธรรมทางเพศจะเป็นเรื่องของเราทุกคน บทเรียนการทำงานเพิ่มอำนาจให้ขบวนผู้หญิงรากหญ้าในประเทศไทย
คำสำคัญ:
ความเท่าเทียมทางเพศ, การเสริมอำนาจ, สตรีรากหญ้าบทคัดย่อ
บทความชิ้นนี้เป็นการสรุปบทเรียนการทำงานเพื่อเสริมพลังอำนาจและศักยภาพของคนทำงาน
เพื่อความเป็นธรรมทางเพศให้กับกลุ่มคนทำงานประเด็นผู้หญิงในประเทศไทย ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ เอ็นจีโอ ผู้นำชุมชนรากหญ้า และแกนนำเจ้าของปัญหา ซึ่งทำงานในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงบนฐานเพศต่อผู้หญิงและการท้องไม่พร้อม จากโครงการพัฒนาหลายโครงการที่แผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ สมาคมเพศวิถีศึกษา ให้ทุนสนับสนุนการทำงานในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 ผู้เขียนเกี่ยวข้องกับงานเหล่านี้ในฐานะผู้ประเมินผลภายในของแผนงานสุขภาวะผู้หญิงและความเป็นธรรมทางเพศ และพบบทเรียนสำคัญที่เป็นปัจจัยความสำเร็จของการทำงาน 5 ประการ คือ (1) แกนคณะทำงานต้องมาจากความร่วมมือระหว่างเจ้าของปัญหาโดยตรง กับผู้สนับสนุน ซึ่งเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิด หรือเป็นผู้ที่เข้าใจและเห็นอกเห็นใจ
ผู้ประสบปัญหา โดยทำงานร่วมกันแบบใช้อำนาจร่วมในลักษณะทีมพันธมิตร (2) การทำงานโดยใช้ฐานคิดร่วมกันเรื่อง “สตรีนิยมแนวจิตวิญญาณเพื่อความเป็นธรรม” และใช้แนวทาง “สันติวิธี” ในการทำงาน (3) งานจะสำเร็จได้เร็วขึ้นและง่ายขึ้น หากสามารถขยายความร่วมมือไปยังกลุ่มผู้มีอำนาจตัดสินใจในประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น (4) การสร้างการรับรู้และมีส่วนร่วมของคนในชุมชนหรือองค์กรกับประเด็นปัญหาอย่างต่อเนื่องและกว้างขวาง โดยเปิดพื้นที่และเนื้อหาของการสนทนาใหม่ๆ ที่ท้าทายความเชื่อเดิมของสังคมในประเด็นความเป็นธรรมทางเพศ โดยเฉพาะกับผู้ชายและผู้เห็นต่าง โดยใช้เครื่องมือหลากหลาย และ (5) เป้าหมายของการทำงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชื่อมโยงกันตั้งแต่ระดับส่วนตัวและครอบครัว จนถึงชุมชน องค์กร และโครงสร้างสังคม
เอกสารอ้างอิง
Bayeh, E. (2016). The role of empowering women and achieving gender equality to the sustainable development of Ethiopia. Pacific Science Review B: Humanities and Social Sciences, 2(1), 37–42. https://doi.org/10.1016/j.psrb.2016.09.013
Buranajaroenkij, D. (2017). Political Feminism and the Women’s Movement in Thailand: Actors, Debates and Strategies (p. 40). BKK: Friedrich Ebert Stiftung. Retrieved from Friedrich Ebert Stiftung website: http://library.fes.de/pdf-files/bueros/thailand/13363.pdf
Gatenby, B., & Humphries, M. (2000). Feminist participatory action research: Methodological and ethical issues. Women’s Studies International Forum, 23(1), 89–105. https://doi.org/10.1016/S0277-5395(99)00095-3
Khuankaew, O. (2020). Grassroots Women Transforming Patriarchy with Spiritual Activism. Journal of Feminist Studies in Religion, 36(1), 113–121. https://doi.org/10.2979/jfemistudreli.36.1.10
Nikkhah, H. A., Redzuan, M., & Abu-Samah, A. (2011). Development of ‘Power within’ among the Women: A Road to Empowerment. Asian Social Science, 8(1), p39. https://doi.org/10.5539/ass.v8n1p39
Wasi, J., Srisa-nga, T., Sanguanwong, N., & Vachirachai, P. (2016). Full Internal Evaluation Report for Women Wellbeing and Gender Equality Program (2012-2016). BKK: Sexuality Study Association.
Williams, J., & Lykes, M. B. (2003). Bridging Theory and Practice: Using Reflexive Cycles in Feminist Participatory Action Research. Feminism & Psychology, 13(3), 287–294. https://doi.org/10.1177/0959353503013003002
Interview
Varaporn Chamsanit, interviews, 5 February 2016.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 วารสารความเป็นธรรมทางสังคมและความเหลื่อมล้ำ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-ShareAlike 4.0 International License.
