การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่อง มาตราตัวสะกด ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างการสอนโดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์ ชุด นิทานหรรษามาตราตัวสะกด กับการสอนแบบปกติ
คำสำคัญ:
หนังสือเสริมประสบการณ์, การสอนแบบปกติ, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, มาตราตัวสะกดบทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของหนังสือเสริมประสบการณ์ ชุด นิทานหรรษามาตราตัวสะกด ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างวิธีการสอนโดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์ ชุด นิทานหรรษามาตราตัวสะกด กับวิธีการสอนแบบปกติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 รวม ทั้งสิ้น 105 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบง่าย (simple random sample) ด้วยวิธีการจับสลาก ได้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จำนวน 35 คน ใช้วิธีการสอนด้วยหนังสือเสริมประสบการณ์ ชุด นิทานหรรษามาตราตัวสะกด และได้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จำนวน 35 คน ใช้วิธีการสอนแบบปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) หนังสือเสริมประสบการณ์ ชุด นิทานหรรษามาตราตัวสะกด (2) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง มาตราตัวสะกด (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง มาตราตัวสะกดที่มีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.99 โดยใช้แบบแผน การทดลองแบบ Randomized Group ,Pretest-Posttest Design วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีแบบกลุ่มตัวอย่างที่เป็นอิสระต่อกัน (t-test For Independent Samples) ผลการวิจัย พบว่า (1) หนังสือเสริมประสบการณ์ ชุด นิทานหรรษามาตราตัวสะกด มีค่าประสิทธิภาพตรงตามเกณฑ์ 80/80 ด้วยค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 86.96/82.33 (2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนระหว่างการสอนโดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์ ชุด นิทานหรรษามาตราตัวสะกดสูงกว่านักเรียนที่เรียนโดยใช้การสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐาน
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 (พิมพ์ครั้งที่ 2). โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. ชุมชนสหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย
จิราพร บุดดีอ้วน. (2564). การส่งเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนระดับประถมศึกษาโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบร่วมมือ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
เจนจิรา ไชยคงทอง. (2563). การสร้างหนังสือส่งเสริมการอ่าน นิทานเพลงชาน้อง จังหวัดสุราษฎร์ธานี สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 [สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ฉัตรธิดา ศัพทเสวและสิริพัชร์ เจษฎาวิโรจน์. (2564). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย เรื่อง การเขียนมาตราตัวสะกดของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดราชปักษี โดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย [สารนิพนธ์ปริญญา มหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ชนนี ชุ่มชื่น และกรวิภา สรรพกิจจำนง. (2564). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องหินในท้องถิ่น ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างการสอนโดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์ชุดมหัศจรรย์ของหินกับการสอนแบบปกติ [สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
วรัญญา ไวบ้านเทา. (2563). การจัดการเรียนรู้โดยใช้นิทานเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านคำศัพท์ภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยรังสิต.
สุดารัตน์ โพธิ์งาม. (2565). การพัฒนาความสามารถทางการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้กิจกรรมการอ่านแบบกว้างขวาง [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต ไม่ได้ตีพิมพ์]. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
สมพร จารุนัฏ. (2538). การจัดทำหนังสือเสริมประสบการณ์ (พิมพ์ครั้งที่ 2). ศูนย์พัฒนาหนังสือ กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ.
Bloom, B. H. (1956). Taxonomy of Education Objective, Handbook 1: The Cognitive Domain. David Mackey Co Inc.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
