The elationship between working conditions and job retention with disabilities In establishments in Lamphun Province
Abstract
ABSTRACT
A study on "Relationship between working conditions and job retention of people with disabilities" In establishments in Lamphun Province" This study is a qualitative research method. To study the relationship between fundamentals and job satisfaction among people with disabilities, and to study the relationship between fundamentals and work satisfaction and job retention of people with disabilities. The samples used in the study were Persons with disabilities who are employees of establishments and work in establishments in Lamphun Province With employment in accordance with the Promotion and Development of the Quality of Life of Persons with Disabilities Act 2007 And the amendment (No. 2), 2013 under Section 33, amount 353 people. The study has calculated the sample size according to the formula of Taro Yamane (Yamane's) a total of 188 people with disabilities aged between 18-65 years. This was survey research using questionnaires collected. The data were analyzed for frequency, percentage, mean, and standard deviation. And analytical statistics
The results of the study reveal that overall the satisfaction of people with disabilities towards working conditions was at a moderate level and ranked the highest satisfaction of people with disabilities towards working conditions in 3 aspects, namely 1) compensation and welfare at work 2) satisfaction in responsible work 3) recognition of respect. In terms of the relationship between fundamental factors and job satisfaction with remain at work with people with disabilities, it was found that the basic factors related to satisfaction were 1) the current salary level was related to the satisfaction level of the disabled; 2) the working time was related to the satisfaction level of the disabled.
Recommendations from the study are that the Department of Empowerment of Persons with Disabilities, Ministry of Social Development and Human Security, should promote skills in various fields for people with disabilities through capacity development, including training for those who are entering formal employment in the workplace that corresponds to the nature of work and the condition of disability so that people with disabilities are satisfied with working conditions in the workplace.
Keywords: Relationship, Satisfaction, Work Conditions, Job Retention
References
นงนุช วงษ์สุวรรณ. (2550). การบริหารทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพฯ: จามจุรีโปรดักส์.
ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. (2553). จิตวิทยาการบริหารงานบุคคล. กรุงเทพฯ: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ.
รัตกัมพล พันธุ์เพ็ง. (2547). ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้สถาพแวดล้อมในการทำงาน ความเหนื่อยล้าทางจิตใจและสุขภาพของพนักงานโรงงานผลิตเลนซ์.(วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
วรรณวิสา ดำรงสกุลวงษ์. (2557). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อแนวโน้มการลาออกของพนักงานในอุตสาหกรรมฟอกหนัง: กรณีศึกษาบริษัท อินเตอร์ไฮค์ จำกัด (มหาชน). หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัญฑิต.มหาวิทยาลัยเนชั่น.
สกุลนารี กาแก้ว. (2546). ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล สภาพแวดล้อมในการทำงานกับการปฏิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลตำรวจ. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์).
สุรพล สุวรรณแสง. (2553). ปัจจัยคงอยู่ของครูโรงเรียนเอกชนในระบบที่จัดการศึกษาขั้นฐานในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต 2. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, สาขาวิชาการจัดการศึกษาบัณฑิต.
สุชาดา หลวงศักดิ์. (2545). การศึกษาความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการคงอยู่ในงานอาชีพพยาบาล ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เขตจังหวัดราชบุรี. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, วิชาเอกการวิจัยและสถิติทางการศึกษา.
พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556. กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ.
แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ฉบับที่ 4 พ.ศ.2555 – 2559 คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ.
Downloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารสังคมภิวัฒน์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว