แนวทางการพัฒนาการปฏิบัติงานของพี่เลี้ยงตามกรอบการปฏิบัติงาน การคุ้มครองเด็กในสถานรองรับเด็กของกรมกิจการเด็กและเยาวชน

บทคัดย่อ

            บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติ ปัญหาและอุปสรรค และความต้องการพัฒนาตนเองของพี่เลี้ยงในสถานสงเคราะห์ตามกรอบการปฏิบัติงานการคุ้มครองเด็กในสถานรองรับเด็กของกรมกิจการเด็กและเยาวชน เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey  Research) โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลจากพี่เลี้ยงที่ปฏิบัติหน้าที่โดยตรงในการเลี้ยงดูเด็กของสถานสงเคราะห์เด็กอ่อน สังกัดกรมกิจการเด็กและเยาวชน ทั้งหมด 8 แห่ง จำนวน 192 คน ผลการศึกษาสรุปได้ ดังนี้ กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาทั้งหมดเป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 51-60 ปี สำเร็จการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา มีรูปแบบการจ้างงานแบบลูกจ้างชั่วคราว และมีระยะเวลาการปฏิบัติงานตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป ทัศนคติของพี่เลี้ยงในสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนมีความคิดเห็นต่อการปฏิบัติงานตามกรอบการปฏิบัติงานการคุ้มครองเด็กอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเฉพาะการปกป้องคุ้มครองเด็ก สำหรับปัญหาและอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานตามกรอบการปฏิบัติงานการคุ้มครองเด็กในสถานรองรับเด็กอยู่ในระดับปานกลาง ยกเว้นปัญหาที่เกิดจากการบริหารงานภายในหน่วยงานมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก และพี่เลี้ยงมีความต้องการพัฒนาการปฏิบัติงานตามกรอบการปฏิบัติงานการคุ้มครองเด็กอยู่ในระดับมาก ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่าง พบว่าระดับการศึกษาที่แตกต่างกันมีผลต่อทัศนคติด้านการไม่ลงโทษเด็กหรือล่วงละเมิดต่อเด็ก และความคิดเห็นต่อปัญหาที่เกิดจากการบริหารงานภายในหน่วยงานแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ นอกจากนี้ยังพบว่าระยะเวลาในการปฏิบัติงานที่แตกต่างกันมีผลต่อทัศนคติด้านการไม่เลือกปฏิบัติต่อเด็กแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ข้อเสนอแนะจากการศึกษา กรมกิจการเด็กและเยาวชน ควรสร้างความตระหนักและผลักดันให้ทุกส่วนเห็นความสำคัญในการขับเคลื่อนการทำงานด้านการปกป้องคุ้มครองเด็ก และมีการติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งควรทบทวนแนวทางและรูปแบบการพัฒนาบุคลากรให้มีความสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกับนโยบายในการทำงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกลุ่มเป้าหมาย