ปัญหาอุปสรรค และแนวทางการพัฒนาบริการครอบครัวอุปถัมภ์ แบบเครือญาติของสถานรองรับเด็ก กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและแนวทางการพัฒนาบริการครอบครัวอุปถัมภ์แบบเครือญาติของสถานรองรับเด็ก กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์อย่างมีโครงสร้างกับกลุ่มบุคลากรของกรมกิจการเด็กและเยาวชน ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานครอบครัวอุปถัมภ์จำนวน 12 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) ผู้บริหารจำนวน 2 คน คือ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมและผู้อำนวยการกลุ่มงานครอบครัวอุปถัมภ์ 2) ผู้ปฏิบัติงาน ครอบครัวอุปถัมภ์ของสถานรองรับเด็กจำนวน 10 คน ผลการศึกษาพบว่า ปัญหาอุปสรรคของการจัดบริการคือด้านงบประมาณที่ไม่เพียงพอในการสนับสนุนครอบครัวอุปถัมภ์ทั้งในแง่ของจำนวนเงินที่ไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจสังคมในปัจจุบัน จำนวนการช่วยเหลือยังไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีคุณสมบัติครบถ้วนกับการเป็นครอบครัวอุปถัมภ์แบบเครือญาติและการเปลี่ยนเจ้าหน้าที่บ่อยส่งผลกระทบต่อการสร้างความสัมพันธ์ ความไว้วางใจ และความต่อเนื่องในการทำงานกับครอบครัวอุปถัมภ์ได้ โดยเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ปฏิบัติตามคู่มือแต่ยังขาดการบูรณาการเชื่อมโยงทรัพยากรด้านอื่นๆ นอกเหนือจากการสนับสนุนด้านเงิน แนวทางการพัฒนาบริการครอบครัวอุปถัมภ์พบว่า (1) ควรพัฒนาระเบียบที่ใช้ในการปฏิบัติงานและให้ความช่วยเหลือครอบครัวอุปถัมภ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางสังคมในปัจจุบัน (2) ควรพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในการทำงานทั้งในด้านกฎหมาย กฎระเบียบ ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการทำงานกับเด็กและครอบครัวอุปถัมภ์ (3) ควรประสานความร่วมมือกับท้องถิ่นในการเพิ่มกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมความรู้ ความสัมพันธ์หรือการปรับตัวของครอบครัวและเด็ก
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสังคมภิวัฒน์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารสังคมภิวัฒน์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
