ศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดพิจิตร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวและวิเคราะห์สภาพสถานการณ์การท่องเที่ยว ปัญหา และอุปสรรค ในการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนของจังหวัดพิจิตร โดยผู้วิจัยได้ใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพในการตรวจสอบศักยภาพบริบทพื้นที่ทางการท่องเที่ยว และการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดพิจิตร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสำรวจทรัพยากรการท่องเที่ยว และแบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง ผู้วิจัยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา ผลการวิจัยจากการตรวจสอบบริบทพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดพิจิตรพบว่า 1) ด้านทำเลที่ตั้ง แหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไม่ได้ตั้งอยู่บนถนนสายหลัก2) ด้านสภาพของแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวภายในจังหวัดพิจิตร เนื่องจากมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะของแต่ละแหล่งท่องเที่ยว 3) ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ที่พักบริเวณแหล่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่เพียงพอต่อการรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในบริเวณแหล่งท่องเที่ยว แต่มีบางแห่งยังขาดการจัดการด้านที่พักให้ได้มาตรฐาน 4) ด้านระบบสาธารณูปโภคของแหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ ไฟฟ้า ประปา มีศักยภาพโดยรวมอยู่ในระดับมาก 5) ด้านการมีส่วนร่วมของชุมชน ประชาชนในพื้นที่มีความตื่นตัวและสนใจเข้าร่วมกิจกรรมทางด้านการท่องเที่ยวในระดับมาก 6) ด้านโอกาสในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว จังหวัดพิจิตรมีบทบาทในการพัฒนาและบริหารจัดการพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวภายในพื้นที่ 7) การท่องเที่ยวของจังหวัดพิจิตรยังขาดการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ในเรื่องการเผยแพร่ข้อมูลที่น่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัดสู่สายตานักท่องเที่ยวและผู้เยี่ยมเยือน จึงส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
Article Details
เอกสารอ้างอิง
[2] Boonyaphak, Wiwatchai. (2007). The Impact of Tourism Industry in Cultural Heritage. Tourism Journal, 4 (October), 31-38.
[3] Carmen, M. I. (2009). The Importance Planning of Public Relations in Tourist Organizations' Communication. Management, 12(2), 239-248.
[4] Institute of Ecotourism. (2002). Strategic Assessment of the Impact on the Environment and Tourism. Bangkok: Institute of Ecotourism, Srinakarinwirot University.
[5] National Economic and Social Development Board. (2011). National Economic and Social Development Plan (11): 2012-2016. Bangkok.
[6] Pradit, Rotsukhon. & Pamprasit, Rudklaw. (2014). Potentials and Opportunities in Tourism Development of Khaokho Sub-district, Phetchabun Province. Journal of Social Sciences, 10(2), 127-149.
[7] Singsaktrakul, Parichat. & Sermkarndee, Patcharin. (2013). The Study of Potentiality and Conservation Tourism Development Approach of Baan Thung-Maprang, Khun Doan District and Baan Ton-Panan, Kuan Kalong District in Satun Province. Suddhiparitad Journal, 27(83), 97-112.
[8] Sortrakul, Suyaporn. & Taweepornprathomkul, Suchart. (2013). Guideline for Participatory Community Tourism Management in Songprake Sub-district Phang-nga Province. Journal of Sports Science and Health, 14(3), 157-171.
[9] Srisathu, Vipa. (2008). Eco-tourism Potential of Amphoe Khao Kho Phetchabun Province. Master of Science Degree in Ecotourism Planning and Management. Srinakharinwirot University. Bangkok.
[10] Suwan, Manus. (1995). Ecological and Economic Development. Bangkok: Odeonstore.
[11] Thitiyaporn, Ploychompooh. (2010). Communication of Sustainable Tourism Community: A Study of Khlong Lat Mayom Community. Master of Arts, Thammasat University, Bangkok.
[12] Tiapaiboon, Phattanakan. (2014). Potential of Community Based Ecotourism at Hua-Noun Wat Community, Mae-Tom Sub-District, Bangkum District, Songkla Province. Master of Science in Environment Management, Prince of Songkla University.