เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อส่งบทความ

ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและยืนยันว่าปฏิบัติตามข้อกำหนดการส่งบทความทุกข้อ บทความที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดอาจถูกส่งคืนให้ผู้แต่งดำเนินการแก้ไข

  • The submission has not been previously published, nor is it before another journal for consideration (or an explanation has been provided in Comments to the Editor).
  • The submission file is in OpenOffice, Microsoft Word, or RTF document file format.
  • Where available, URLs for the references have been provided.
  • The text is single-spaced; uses a 12-point font; employs italics, rather than underlining (except with URL addresses); and all illustrations, figures, and tables are placed within the text at the appropriate points, rather than at the end.
  • The text adheres to the stylistic and bibliographic requirements outlined in the Author Guidelines.

หลักเกณฑ์และคำแนะนำสำหรับผู้นิพนธ์ 
ข้อตกลงเบื้องต้น 
1.สิ่งที่ผู้เขียนต้องแนบในขั้นตอนการส่งบทความมีดังนี้
(ขอให้แนบไฟล์และเอกสารตามลำดับโดยให้แนบไฟล์บทความประเภท Microsoft Word เป็นลำดับสุดท้าย เพราะระบบตรวจสอบความซ้ำซ้อน CopyCatch จะตรวจจากไฟล์ที่ Upload ล่าสุด) 
1.1 สลิปหลักฐานการโอนเงิน จำนวน 3,500 บาท (ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) เลขที่บัญชี 4387958244  
1.2.แบบฟอร์มส่งบทความที่กรอกข้อมูลครบแล้ว
(แบบฟอร์มการส่งบทความ)
1.3ไฟล์บทความต้นฉบับที่จัดรูปแบบตาม Template แล้ว (MS Word)  
ดาวน์โหลด Tempalte บทความวิจัย
ดาวน์โหลด Tempalte บทความวิชาการ  
ดาวน์เหลดรูปแบบการอ้างอิง APA7

2.ผู้เขียนต้องปรับรูปแบบการอ่างอิงเป็น APA7 เท่านั้น (รูปแบบการอ้างอิง APA7)
3.ระยะเวลาการพิจารณาบทความประมาณ 1-2 เดือน (ไม่ควรเร่งรัด) 

ในกรณีผู้เขียนยังไม่ส่งเอกสารหลักฐานและแบบฟอร์มยืนยันการไม่ตีพิมพ์ซ้ำซ้อนภายใน 4 สัปดาห์ นับจากวันส่งบทความเข้าระบบ ทางวารสารจะไม่ดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับบทความนั้น ๆ ขอปฏิเสธและนำบทความนั้นออกจากระบบโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ

ในเบื้องต้นบรรณาธิการจะรอผลการความคล้ายคลึงที่ตรวจสอบอัตโนมัติโดย CopyCatch ถ้าในกรณีผลการตรวจสอบอัตโนมัติโดย CopyCatch เกิน 20% แจ้งให้ผู้เขียนปรับแก้บทความและ upload ไฟล์บทความเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบอัตโนมัติใหม่ จนกว่าผลการตรวจสอบอัตโนมัติโดย CopyCatch จะไม่เกิน 20% 

ระยะเวลาในการดำเนินการต่อหนึ่งบทความ (เริ่มนับจากผล CopyCatch ผ่าน)

ขันตอนที่ 1 (1 สัปดาห์) 
บรรณาธิการจะตรวจสอบความถูกต้องของบทความ โดยเฉพาะรูปแบบการอ่้างอิงและองคืประกอบของบทความตามที่วารสารกำหนด และจะส่งให้ผู้เขียนแก้ไข ในกรณีพบข้อผิดพลาด 

ขันตอนที่ 2 (4 สัปดาห์) 
บรรณาธิการจะส่งบทความให้ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจประเมินคุรภาพบทความ โดยใช้เวลาตามที่กำหนดในระบบ คือ 4 สัปดาห์ ทั้งนี้ ความช้าเร็ว หรือเกินกำหนดขึ้นอยู่กับผู้ทรงคุณวุฒินั้น ๆ ทางวารสารไม่สามารถควบคุม บังคับหรือเร่งรัดได้ 

ขั้นตอนที่ 3 (4 สัปดาห์)
เมื่อผู้ทรงคุณวุฒิตรวจครบแล้ว ทางวารสารจะส่งให้ผู้เขียนแก้ไข โดยให้เวลา 4 สัปดาห์ 

ขันตอนที่ 4 (1 สัปดาห์) 
หลังจากผู้เขียนส่งบทความฉบับแก้ไข (Upload file ตรง Revisions ใน Submissiom เดิม, ไม่ใช่การส่งบทความด้วยการ Submission ใหม่) บรรณาธิการจะตรวจสอบความถูกต้อง ในกรณีที่พบความผิดพลาด จะส่งให้ผู้เขียนแก้ไขอีกครั้ง แต่ถ้าบทความฉบับแก้ไขไม่พบข้อผิดพลาดที่ต้องแก้ไข บรรณาธิการจะตอบรับในระบบ และจะออกหนังสือตอบรับให้ภายในหนั่งสัปดาห์ (วารสารจะไม่ออกหนังสือตอบรับให้ก่อนสิ้นสุดกระบวนการทั้ง 4 ขั้นตอนนี้เด็ดขาด)  

ในกรณีที่ผู้เขียนไม่ยอมแก้ไขบทความคืนกองบรรณาธิการภายใน 4 สัปดาห์หลังจากได้รับการแจ้งเตือนจากระบบวารสารออนไลน์ กองบรรณาธิการขอปฏิเสธการตีพิมพ์อย่างไม่มีเงื่อนไข 

การเตรียมต้นฉบับ

1.ภาษา  เขียนบทความเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ แต่ละเรื่องจะต้องมีบทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  การใช้ภาษาไทยให้ยึดหลักการใช้คำศัพท์และการเขียนทับศัพท์ภาษาอังกฤษตามหลักของราชบัณฑิตยสถาน อย่างไรก็ตาม ให้หลีกเลี่ยงการเขียนภาษาอังกฤษปนภาษาไทยในข้อความ ยกเว้นกรณีจำเป็น เช่น ศัพท์ทางวิชาการที่ไม่มีคำแปล หรือคำที่ใช้แล้วทำให้เข้าใจง่ายขึ้น คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เขียนปนภาษาไทยให้ใช้ตัวเล็กทั้งหมด ยกเว้นชื่อเฉพาะ  สำหรับต้นฉบับภาษาอังกฤษ ควรได้รับการตรวจสอบความถูกต้องด้านการใช้ภาษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษก่อน
2.ขนาดของต้นฉบับ  ใช้กระดาษขนาด A4 (8.5 x 11 นิ้ว) และพิมพ์โดยเว้นระยะห่างจากขอบกระดาษด้านละ 1 นิ้ว จัดเป็นหนึ่งคอลัมน์ ระยะห่างระหว่างบรรทัดใช้ single space
3.ชนิดและขนาดตัวอักษร  ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้ใช้ตัวอักษร TH SarabunPSK ดังรายละเอียด
3.1 ชื่อเรื่อง ใช้ฟอนท์  TH SarabunPSK ขนาด 16 pt. ตัวหนา
3.2 ชื่อ-นามสกุลผู้นิพนธ์ ใช้ฟอนท์  TH SarabunPSK ขนาด 14 pt. ตัวปกติ 
3.3 ต้นสังกัดหรือที่อยู่ของผู้นิพนธ์ ใช้ฟอนท์  TH SarabunPSK ขนาด 12 pt. ตัวปกติ
3.4 บทคัดย่อ/Abstract ใช้ฟอนท์   TH SarabunPSK ขนาด 16 pt.  ตัวหนา
3.5 เนื้อหาบทคัดย่อ (ไทย/English) ใช้ฟอนท์  TH SarabunPSK ขนาด 15 pt. ตัวปกติ (300 คำ)
3.6 คำสำคัญ/Keywords (5 คำ) ใช้ฟอนท์  TH SarabunPSK ขนาด 15 pt. ตัวหนา/ปกติ
3.7 หัวข้อหลัก ใช้ฟอนท์  TH SarabunPSK ขนาด 16 pt.  ตัวหนา
3.8 เนื้อหา ใช้ฟอนท์  TH SarabunPSK ขนาด 16 pt.  ตัวปกติ
4.การพิมพ์ต้นฉบับ ผู้เสนอผลงานจะต้องพิมพ์และส่งต้นฉบับในรูปแบบของแฟ้มข้อมูลเป็น “.doc” หรือ “.docx” (MS Word) เท่านั้น
5.จำนวนหน้า  ความยาวของบทความไม่เกิน 15 หน้า รวมตาราง รูปภาพ และเอกสารอ้างอิง
6.รูปภาพ ในกรณีที่ผู้เขียนบทความ มีภาพ กราฟฟิก หรือแผนภูมิประกอบบทความ ควรบันทึกไฟล์รูปภาพ กราฟฟิก หรือแผนภูมิเป็นนามสกุล “.jpg” หรือ “.jpeg” โดยเขียนบรรยายใต้ภาพ ตัวอักษรขนาด 15 pt

รูปแบบการเขียนต้นฉบับ
บทความวิจัย
1.ชื่อเรื่อง (Title) ควรสั้น กะทัดรัด และสื่อเป้าหมายหลักของงานวิจัย ไม่ใช้คำย่อ ความยาวไม่ควรเกิน 100 ตัวอักษร ชื่อเรื่องให้มีทั้งภาษาไทย และอังกฤษ โดยให้นำชื่อเรื่องภาษาไทยขึ้นก่อน
2.ชื่อผู้นิพนธ์ Author(s) และที่อยู่ ให้มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ และระบุตำแหน่งทางวิชาการ หน่วยงานหรือสถาบัน ที่อยู่ และ E-mail address ของผู้นิพนธ์ เพื่อกองบรรณาธิการใช้ติดต่อเกี่ยวกับต้นฉบับและบทความที่ตีพิมพ์แล้ว
3.บทคัดย่อ (Abstract) เป็นการย่อเนื้อความงานวิจัยทั้งเรื่องให้สั้น และมีเนื้อหาครบถ้วนตามเรื่องเต็ม ความยาวไม่เกิน 300 คำ หรือ 15 บรรทัด ไม่ควรใช้คำย่อที่ไม่เป็นสากล และให้บทคัดย่อภาษาไทยขึ้นก่อนภาษาอังกฤษ
4.คำสำคัญ (Keywords) ให้ระบุไว้ท้ายบทคัดย่อของแต่ละภาษา ไม่เกิน 5 คำ
5.บทนำ (Introduction) เป็นส่วนเริ่มต้นของเนื้อหา ที่บอกความเป็นมา เหตุผล และวัตถุประสงค์ ที่นำไปสู่การทำงานวิจัยนี้ รวมถึงทฤษฎี วรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยในครั้งนี้พอสังเขป
6.วิธีดำเนินการวิจัย (Research Methodology) ให้ระบุรายละเอียดวิธีการศึกษาวิจัย ประกอบด้วยขอบเขต  ประชากร กลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือ วิธีการเก็บข้อมูล และวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลตามลักษณะที่เหมาะสมของงานวิจัย 
7.ผลการวิจัย (Results) รายงานผลการศึกษาที่ค้นพบ ตามลำดับหัวข้อของการศึกษาวิจัย อย่างชัดเจนได้ใจความ ถ้าผลไม่ซับซ้อน ไม่มีตัวเลขมาก ควรใช้คำบรรยาย แต่ถ้ามีตัวเลข หรือตัวแปรมาก ควรใช้ตาราง กราฟ หรือแผนภูมิแทน ในบทความไม่ควรมีเกิน 5 ตาราง หรือแผนภูมิ
8.การอภิปรายและสรุปผล (Discussion and Conclusion) แสดงให้เห็นว่าผลการศึกษาตรงกับวัตถุประสงค์ของงานวิจัย หรือแตกต่างไปจากผลงานที่มีผู้รายงานไว้ก่อนหรือไม่ อย่างไร เหตุผลใดจึงเป็นเช่นนั้น และมีพื้นฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้ และให้จบด้วยข้อเสนอแนะที่จะนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ ควรมีประเด็นคำถามการวิจัย ซึ่งเป็นแนวทางสำหรับการวิจัยต่อไป
9.ตาราง รูปภาพ แผนภูมิ (Table, figure, and diagram) ควรคัดเลือกเฉพาะที่จำเป็น แยกออกจากเนื้อเรื่อง โดยเรียงลำดับให้สอดคล้องกับคำอธิบายในเนื้อเรื่อง และต้องมีคำอธิบายสั้น ๆ แต่สื่อความหมายได้สาระครบถ้วน กรณีที่เป็นตาราง คำอธิบายอยู่ด้านบน ส่วนรูปภาพ แผนภูมิ คำอธิบายอยู่ด้านล่าง
10.กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgement) ระบุสั้น ๆ ว่างานวิจัยนี้ได้รับทุนสนับสนุน และความช่วยเหลือจากองค์กรใด หรือบุคคลใดบ้าง
11.เอกสารอ้างอิง ระบุรายการเอกสารอ้างอิงให้ครบถ้วนที่ท้ายเรื่อง โดยใช้ระบบการอ้างอิงแบบ APA (6th Edition)  

 

บทความวิชาการ
ต้องมีส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ชื่อเรื่อง ชื่อผู้นิพนธ์ บทคัดย่อ คำสำคัญ บทนำ เนื้อหา บทสรุป และเอกสารอ้างอิง
บทวิจารณ์หนังสือ
ต้องมีส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ข้อมูลทางบรรณานุกรม ชื่อผู้วิจารณ์ บทวิจารณ์

การอ้างอิงเอกสาร
การอ้างอิงในเนื้อหา ใช้รูปแบบ APA 6th Edition คือ ระบุเพียงนามผู้เขียน และปีที่พิมพ์ ดังนี้

1.การอ้างอิงหน้าข้อความ  ชื่อผู้แต่ง/(ปีพิมพ์).....................

ตัวอย่าง 

ประเวศ วะสี (2554) ได้เน้นความสำคัญของสารสนเทศในสังคมยุคโลกาภิวัตน์เทียบเท่ากับอำนาจ ใครมีสารสนเทศมากกว่าย่อมมีอำนาจมากกว่าผู้อื่น….

2.การอ้างอิงหลังข้อความ ...................(ชื่อผู้แต่ง, ปีที่พิมพ์)

ตัวอย่าง 

นักวิจัยต้องมีความซื่อสัตย์ทุกขั้นตอนของกระบวนการวิจัย ตั้งแต่การเลือกเรื่องที่จะทำวิจัย การเลือกผู้เข้าร่วมวิจัย การดำเนินการวิจัย ตลอดจนนำผลการวิจัยไปใช้ประโยชน์ (นงนุช ธานี, 2552)

 

การเขียนอ้างอิงเอกสารส่วนท้ายเรื่อง

          ใช้รูปแบบการอ้างอิงตามรูปแบบ APA 7th Edition  การเขียนเอกสารอ้างอิง

หนังสือ

              ชื่อผู้เขียน./(ปีที่พิมพ์)/.ชื่อหนังสือ (ครั้งที่พิมพ์). สำนักพิมพ์.

ตัวอย่าง

อภิชัย พันธเสน. (2544). พุทธเศรษฐศาสตร์ : วิวัฒนาการ ทฤษฎีและการประยุกต์กับเศรษฐศาสตร์สาขาต่าง ๆ (พิมพ์ครั้งที่ 2). อมรินทร์.

Collins, Randall. (1974). Conflict Sociology (7thed)Academic Press.

 

บทความจากวารสาร

ผู้เขียน./(ปีที่พิมพ์)./ชื่อบทความ.//ชื่อวารสาร.//ปีที่(ฉบับที่),/หน้า-หน้า.

ตัวอย่าง

วรวัฒน์ พิพัฒน์ผล. (2551). การจัดการความรู้เรื่องการประกันคุรภาพ. วารสารมนุษยศาสตร์ศึกษา, 4(1), 1-13.

Gatten, Jeffrey N. (2004). Measuring Consortium Impact on User Perception: OhioLINK and LibQUAL. The Journal of Academic Librarianship, 30(3), 115-135.

 

รายงานการวิจัย

ชื่อผู้เขียน./(ปีที่พิมพ์)./ชื่องานวิจัยหรือวิทยานิพนธ์.//วิทยานิพนธ์....ระบุระดับปริญญา มหาวิทยาลัย....ระบุมหาวิทยาลัย.....

ตัวอย่าง

พิฆาต  เพชรอินทร์. (2544). การศึกษาเปรียบเทียบทัศนะเรื่องความตายในหลักคำสอนของพุทธศาสนาและคริสต์ศาสนา ที่มีผลต่อพฤติกรรมของพุทธศาสนิกชนทั้งสองในจังหวัดนครนายก. วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาศาสนาเปรียบเทียบ, มหาวิทยาลัยมหิดล.

Buppha Devahuti. (1975). Use of Computer in Series Control in Thai Libraries. Master of Art’s Thesis, Chulalongkorn University.

 

เว็บไซต์

ผู้แต่ง./(2541)./ชื่อเรื่อง./URL

ตัวอย่าง

เครือข่ายกาญจนาภิเษก. (2541). โครงการพัฒนาการเกษตรแบบผสมผสานในพื้นที่ยุทธศาสตร์ชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์. http://www.rdpb.go.th/king/king _news16.html

 

การสัมภาษณ์

ผู้ให้สัมภาษณ์./(2541)./หัวข้อที่สัมภาษณ์/(สัมภาษณ์).//ตำแหน่ง/หน่วยงานที่สังกัดหรือที่อยู่./วันที่/เดือน/ปีที่สัมภาษณ์.

ตัวอย่าง

ขนิษฐา ลาพรมมา. (2551). ลายหมี่และลายผ้าไหมกาบบัว (สัมภาษณ์). ช่างทอผ้า ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรบ้านบอน บ้านเลขที่ 88 หมู่ 2 บ้านบอน ตำบลบอน อำเภอสำโรง จังหวัดอุบลราชธานี.  25 พฤษภาคม 2551.

Korn Tapparangsi. (1999). AIDS Situation in Thailand (Interview). The Minister, Ministry of Public Health, 17 July 1999.

 

รายงานการประชุมและสัมมนาทางวิชาการ

ชื่อบรรณาธิการ,/บรรณาธิการ./(ปีพิมพ์)./ชื่อเรื่อง.//ชื่อการประชุม;/วันที่/เดือน/ปีที่จัดประชุม; สถานที่ประชุม./ สถานที่พิมพ์:/ผู้จัดพิมพ์.

ตัวอย่าง

บุญส่ง พัจนสุนทร, บรรณาธิการ. (2544). ภาวะช็อก : การวินิจฉัยและการวินิจฉัยแยกโรค. ใน Medicine in the Evidence-based Eraการประชุมวิชาการ ประจำปี 2544 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ครั้งที่ 17; 16-19 ตุลาคม 2544; ขอนแก่น. ขอนแก่น: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

K.C. Lun, P. Degoulet and T.E. Piemme, editors. (1992). Enforcement of Data Protection, Privacy and Security in Medical Informatics. In MEDINFO 92, Proceedings of the 7th World Congress on Medical Informatics; 6-10 September 1992; Geneva, Switzerland. Amsterdam: North-Holland.