การสื่อสารออนไลน์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของเยาวชน อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี

ผู้แต่ง

  • นเรศ บัวลวย -
  • อัครพล ลีกำเนิดไทย

คำสำคัญ:

การสื่อสารออนไลน์, การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ, ทัศนคติต่อพฤติกรรมการออกกำลังกาย

บทคัดย่อ

          การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและเพื่อศึกษาการสื่อสารออนไลน์ที่ส่งผลต่อการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของเยาวชน อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ เยาวชนที่มีอายุระหว่าง 15 - 24 ปี จำนวน 400 คน โดยใช้วิธีการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถามวิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบความแตกต่าง

          ผลการศึกษาพบว่า 1) ด้านทัศนคติต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ส่วนใหญ่มีทัศนคติต่อการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มสมรรถภาพด้านร่างกาย จิตใจและสติปัญญามากที่สุด (x̄=4.02) รองลงมาทัศนคติต่อการออกกำลังกายเพื่อช่วยลดปัญหาด้านสุขภาพ (x̄=4.01) และทัศนคติต่อการออกกำลังกายสามารถทำให้ได้พบเพื่อนใหม่ (x̄=3.98) ตามลำดับ 2) การสื่อสารออนไลน์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ พบว่าการสื่อสารออนไลน์ด้านการออกกำลังกาย สามารถตอบโจทย์ความต้องการส่วนบุคคลมากที่สุด (x̄=3.79) รองลงมาการสื่อสารออนไลน์ด้านการออกกำลังกายสามารถเข้าถึงได้ง่าย (x̄=3.58) และการสื่อสารออนไลน์ด้านการออกกำลังกายมีความเหมาะสมสำหรับทุกช่วงวัย (x̄=3.47) ตามลำดับ ทั้งนี้เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบหลายด้าน พบว่าอายุที่ต่างกันส่งผลต่อทัศนคติต่อพฤติกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และรายได้ที่ต่างกันส่งผลต่อทัศนคติพฤติกรรมการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ และการสื่อสารออนไลน์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2566). แผนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ.2566-2570). กรุงเทพฯ.

นาฎอนงค์ แฝงพงษ์, นิตยากร ลุนพรม, วารุณี เตชะคุณารักษ์, ปาริชาติ สุภิมารส และสุรางคนา มัฌยานนท์. (2560). ปัจจัยที่มีผลตอพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพด้านการออกกำลังกายของประชาชน ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี. การวิจัย 4.0 เพื่อการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน. รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ราชธานีวิชาการ ครั้งที่ 2. (น. 1023-1033). ราชธานีวิชาการ. มหาวิทยาลัยราชธานี.

พงศา โพชัย. (2567). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการออกกำลังกายของบุคลากรสถาบันพัฒนาสุขภาวะเขตเมือง [รายงานการวิจัย]. สถาบันสุขภาวะเขตเมือง: กรุงเทพฯ.

วุฒิพงษ์ ปรมัตถากร. (2537). การออกกำลังกาย. กรุงเทพฯ. สำนักพิมพ์ดิโอเดี้ยนสโตร์.

โสภณ พินิจกิจเจริญกุล และปณิธาร บัวเผื่อน. (2560). พฤติกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของบุคลากรในการเข้าถึงสารสนเทศของ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม. [วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม.

เอกสิทธิ เด่นดวง. (2566). กิจกรรมการใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการออกกำลังกายของคนวัยทำงานในเขตกรุงเทพมหานคร. [วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

อนุสรณ์ ส่องแสง, วราภรณ์ จันทร์พราว, ดิศพล บุปผาชาติ และเด่นดวงดี ศรีสุระ. (2565). พฤติกรรมการออกกำลังกายของประชาชนในเขตสุขภาพที่ 10. วารสารวิชาการศูนย์อนามัยที่ 10 อุบลราชธานี, 10(1), 62-83.

Cochran, W.G. (1977). Sampling Techniques. 3rd Edition, John Wiley & Sons, New York.

Durau J., Diehl S., Telutter R. (2022). Motivate me to exercise with you: The effects of social media fitness influencers on users’ intentions to engage in physical activity and the role of user gender. Digital Health, 8(1), 1-17.

Nimrod, G. and Hutchinson, S. (2010). Innovation among older adults with chronic.

Lou, C., & Yuan, S. (2019). How Message Value and Credibility Affect Consumer Trust of Branded Content on Social Media. Journal of Interactive Advertising, 19(1), 58-73.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

30-06-2025

รูปแบบการอ้างอิง

บัวลวย น., & ลีกำเนิดไทย อ. (2025). การสื่อสารออนไลน์ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของเยาวชน อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง, 14(1), 37–48. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JLPRU/article/view/277344

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย