Kraoua Tang Kwai and Kratua Tang Seua: History and Development of Ancient Amusement Play
Main Article Content
Abstract
Kraoua Tang Kwai and Kratua Tang Seua : History and Development of Ancient Amusement Play was to study the relation between the Kraoua Tang Kwai (Buffalo Stabbing Play), the Royal Amusement Play and Kratua Tang Seua or Bongtan Tang Seua (Tiger Stabbing Play), the Public Amusement Play. The Kraoua Tang Kwai has its roots from ancient ceremony that showed the relation between people and buffalo in agricultural society of Southeast Asian region and was appeared on the cave wall. And historical evidence showed that Thailand was derived Kraoua Tang Kwai from Dawei which was performed in the top knot cutting ceremony and which was performed royal cremation ceremony, and it later became part of the royal amusement play since Ayutthaya until Rattanakosin Era. While, Kratua Tang Seua was applied from Kraoua Tang Kwai by making changes in the cast of the play with similar story line. Nowadays, Kratua Tang Seua still is available in any traditional ceremony. While, Kraoua Tang Kwai is hardly found and thus deserved.
Downloads
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
Journal of Thai studies is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial-NoDerivatives4.0 Intenational (CC BY-NC-ND 4.0) licence, unless otherwise stated. Plese read our Policies page for more information on Open Access, copyright and permissions.
References
ฉันทนา เอี่ยมสกุล. (๒๕๕๐). เบิกโรง. กรุงเทพฯ: คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,
ชัชรินทร์ ไชยวัฒน์. (๒๕๕๙). กระอั้วแทงควาย. ไทยโพสต์ (๒๐ เมษายน), น. ๒๔.
ฐิติกร สังข์แก้ว และ อรรถสิทธิ์พานแก้ว. (๒๕๕๙). โชว์เล่นกระตั้วแทงเสือ. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.
บาราย. (๒๕๕๔). กระอั้วแทงควาย. ไทยรัฐ (๑๗ เมษายน), น.๔๐.
_____. (๒๕๕๕) ตำนานสร้างโลก. ไทยรัฐ (๘ มกราคม), น.๓๔.
ประภาษ เพ็งพุ่ม. (๒๕๕๘). โสกันต์: พระราชพิธีแห่งความทรงจำ. พิษณุโลก: ภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ประเมษฐ์ บุญยะชัย. (๒๕๕๑). มหรสพสมโภชน์ในการพระเมรุ. ผู้จัดการ (๑๘ กรกฎาคม), น.๑๖.
ผะอบ โปษะกฤษณะ. (๒๕๒๐). วรรณกรรมประกอบการเล่นหนังใหญ่ วัดขนอน จังหวัดราชบุรี. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี.
ไพบูลย์ อมรประภา. (๒๕๕๑). ประวัติความเป็นมาประติมากรรมกระดาษอัด หรือเปเปอร์มาเช่. พิษณุโลก: โรงเรียนพุทธชินราชพิทยา.
ภาควิชาวรรณคดีเปรียบเทียบ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (๒๕๕๔). บทละครเรื่อง ระเด่นลันได. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มนตรี นาคอ่อน. (๒๕๕๖). หลักสูตรพัฒนาทักษะและเสริมสร้างประสบการณ์ด้านอาชีพและคุณภาพชีวิต วิชาการละเล่นกระตั้วแทงเสือลูกบ้านขอม. สมุทรสาคร: วิทยาลัยชุมชนสมุทรสาคร.
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. (๒๕๕๓). มหรสพหลวง. กรุงเทพฯ: สำนักบรรณสารสนเทศ.
รามัญคดี. (๒๕๕๗). กระอั้วแทงควาย : การละเล่นที่สาบสูญไปจากวัฒนธรรมมอญ. กรุงเทพฯ: มอญศึกษา.
วรรณโชค ไชยสะอาด. (๒๕๕๗). กระตั้วแทงเสือ การละเล่นที่ถูกปลุกโดยนายกฯ และกลุ่มดาวดิน. กรุงเทพฯ: มติชน.
วิชาภรณ์ แสงมณี. (๒๕๕๗). ควายบ้านและควายป่าต่างกันอย่างไร. กรุงเทพฯ: ศิลปะไทย.
วิรัช นิยมธรรม. (๒๕๕๔). ความฝัน นิมิต คำเล่าลือ. พิษณุโลก : มหาวิทยาลัยนเรศวร.
วีณา เอี่ยมประไพ. (๒๕๕๔). ศิลปวัฒนธรรมในสมัยรัชกาลที่ ๖. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ. (๒๕๕๙). ธรรมเนียมเก่าไทยสยามในงานพระบรมศพต้องมีการมหรสพเริงรื่น. กรุงเทพฯ: เดอะแมทเทอร์.
ศิริวรรณ ป้องคำสิงห์. (๒๕๕๓). การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา สาระนาฏศิลป์ หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง กระตั้วแทงเสือ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ สำนักงานเขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี.
ศูนย์ข้อมูลกลางทางวัฒนธรรม. (๒๕๕๔). กระตั้วแทงเสือตำบลปากจั่น. พระนครศรีอยุธยา: กระทรวงวัฒนธรรม.
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. (๒๕๕๘). หนังสือเก่าชาวสยาม. กรุงเทพฯ: สำนักหอสมุดแห่งชาติ.
ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. (๒๕๕๔). สี่แผ่นดินกับเรื่องจริงในราชสำนักสยาม. กรุงเทพฯ: มติชน.
สถานอารยธรรมศึกษาโขง-สาละวิน. (๒๕๕๘). การละเล่นกระอั้วแทงควาย. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสมุทรสาคร. (๒๕๕๖). อนุรักษ์ พัฒนา ทะนุบำรุง และเสริมสร้างเอกลักษณ์กีฬาไทยและกีฬาพื้นบ้าน. สมุทรสาคร: สถาบันการพลศึกษา.
สุจิตต์ วงษ์เทศ. (๒๕๕๙). กระอั้วแทงควาย การละเล่นขอฝน เดือนหก. กรุงเทพฯ: มติชน.
____________. (๒๕๕๘). แทงควายกลายเป็นแทงเสือ. กรุงเทพฯ: มติชน.
สิทธิชัย นครวิลัย. (๒๕๕๗). ถอดรหัสกระตั้วแทงเสือ. กรุงเทพฯ: คมชัดลึก.
เสมา ศิริอำพันธ์. (๒๕๕๓). เพลงซัดชาตรี. ราชบุรี: โรงเรียนโสภณศิริราษฎร์.
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (๒๕๕๙). วัดยานยนาวา. กรุงเทพฯ: คลังทรัพยากรการศึกษาแบบเปิด.
สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ. (๒๕๓๘). โคลงดั้นเรื่อง โสกันต์พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๕ และ บาญชีตัดจุก รายพระนามแลนามผู้ซึ่งพระบาทสมเด็จฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตัดจุก. กรุงเทพฯ: สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี.
สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา. (๒๕๕๓). กระตั้วแทงเสือศิษย์วัดสิงห์ร่วมเสวนา เรื่องกระตั้วแทงเสือ. กรุงเทพฯ: โอเคเนชั่น.
_______. (๒๕๔๘). กระบวนการถ่ายทอดวัฒนธรรมและคุณค่าการละเล่นกระตั้วแทงเสือในชุมชนวัดสังข์กระจาย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร. (๒๕๕๑). การแสดงกระตั้วแทงเสือคณะไพศาลศิลป์ ศิษย์วัดสิงห์. กรุงเทพฯ : โครงการจัดทำแผนที่แหล่งวัฒนธรรมท้องถิ่นมีชีวิต.
หอสมุดพระวชิรญาณ. (๒๔๖๓). บทละครเรื่องระเด่นลันได. กรุงเทพฯ: วชิรญาณ.
อธิวัฒน์ เปลี่ยนใจ. (๒๕๕๗). โครงการออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์การละเล่นพื้นบ้าน กระตั้วแทงเสือ. ปทุมธานี: คณะศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต.