ปัญหาการบังคับใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ศึกษากรณี การลำเลียงหรือขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน

Main Article Content

ณัฐณิชา จันทร์บรรจง
เอกพงษ์ สารน้อย

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมา แนวคิด และทฤษฎีที่เกี่ยวกับปัญหาและการบังคับใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 กรณีการลำเลียงหรือขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน รวมถึงศึกษาวิเคราะห์และเปรียบเทียบกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 กรณีการลำเลียงหรือขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉินของประเทศไทยกับต่างประเทศ เพื่อวิเคราะห์ปัญหากฎหมาย และเสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาการบังคับใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 กรณีการลำเลียงหรือขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยวิธีการวิจัยเอกสารโดยอาศัยการค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลจากตํารากฎหมาย บทความทางวิชาการ วารสาร ผลงานวิจัย วิทยานิพนธ์ พระราชบัญญัติ รวมทั้งเว็บไซต์ที่สามารถเข้าถึงได้โดยง่ายและเป็นแหล่งข้อมูล ที่น่าเชื่อถือ ผลการศึกษาพบว่า ประเทศไทยได้บัญญัตินิยามคำว่า “รถฉุกเฉิน” ไว้อย่างกว้าง ซึ่งทำให้ครอบคลุมรถ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุฉุกเฉิน และมีอัตราโทษสำหรับกรณีผู้ขับขี่ที่กีดขวางรถฉุกเฉิน แต่เป็นอัตราโทษที่ไม่รุนแรงมากนักเมื่อเทียบกับต่างประเทศ อีกทั้งประเทศไทยไม่มีการกำหนดใบอนุญาตขับขี่สำหรับรถฉุกเฉินโดยเฉพาะ ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงมีมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการลำเลียงหรือขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉินที่ยังไม่ชัดเจน เมื่อเทียบกับต่างประเทศที่มีการกำหนดมาตรฐานเป็นการเฉพาะ ดังนั้นจึงควรแก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ในคำนิยาม และการกำหนดโทษ รวมไปถึงการเพิ่มใบอนุญาตขับขี่รถฉุกเฉิน และการกำหนดมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพในการลำเลียงหรือขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉินให้เหมาะสม

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
จันทร์บรรจง ณ. ., & สารน้อย เ. . (2024). ปัญหาการบังคับใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ศึกษากรณี การลำเลียงหรือขนส่งผู้ป่วยฉุกเฉิน. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 10(3), 35–48. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/WTURJ/article/view/276315
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ชินวัต จันทรานนท์. (2557). การใช้ดุลพินิจลงโทษและการกำหนดโทษทางอาญา. การค้นคว้าอิสระ หลักสูตรปริญญานิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

ธีระ ศิริสมุด สุรเดช ดวงทิพย์สิริกุล ปญาดา ชื่นสำโรง และพรทิพย์ วชิรดิลก. (2565). การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพของระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินสู่ภาวะปกติใหม่ (EMS new noemal): แนวทางเพิ่มประสิทธิภาพด้านเวลาในการเข้าถึงระบบบริการการแพทย์ฉุกเฉินของผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตในประเทศไทย. สืบค้นเมื่อ 30 มกราคม 2567, จาก https://shorturl.asia/kE6ZN.

ธีระ ศิริสมุด, กิตติพงศ์ พลเสน, พรทิพย์ วิชรดิลก. (2561). ความรู้ ทัศนคติ และเหตุผลที่ไม่เรียกใช้บริการ การแพทย์ฉุกเฉินของผู้ป่วยฉุกเฉินในประเทศไทย. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 12(4), 668-680.

ภานุชนารถ สีหะอำไพ. (2566). มาตรการกฎหมายในการควบคุมสุนัขบนรถยนต์และการทิ้งสุนัขตามลำพังในยานพาหนะ. สารนิพนธ์หลักสูตรนิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม.

ศักดิ์ บวร. (2559). ปรัชญาของซาร์ต. กรุงเทพฯ: ไฮเท็คซ์ อินเตอร์แอคทีฟ.สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ. (2567). รายงานสถิตการแพทย์ฉุกเฉิน ITEMS 4.0. สืบค้นเมื่อ 20 สิงหาคม 2567, จาก https://www.niems.go.th/1/-SubWebsite/?id=2514.

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2562). งานแถลงข่าวเปิดตัวเลนฉุกเฉินก่อนถึงโรงพยาบาลและปล่อยแถวรถกู้ชีพฉุกเฉิน. สืบค้นเมื่อ 18 สิงหาคม 2567, จาก https://shorturl.asia/mw3zJ.

สุสิริวงษ์ ยอดวงษ์. (2566). มาตรการทางกฎหมายในการบังคับใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522. สารนิพนธ์หลักสูตรนิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม.

อนุชา เศรษฐเสถียร, ธีระ ศิริสมุด, พรทิพย์ วิชรดิลก, สุชาติ ได้รูป, ศิริชัย นิ่มมา. (2558). สถาณการณ์และสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุรถพยาบาลในประเทศไทย. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 9(3), 21-25

Christopher Fee., Kendall Hall., J Bradley Morrison.,Robert Stephens., et al. (2011). Consensus-based recommendations for research priorities related to interventions to safeguard patient safety in the crowded emergency department. Academic Emergency Medicine.

(12),1283-1288.

Hfocus .(2560). ผู้ป่วยวิกฤตเสียชีวิตก่อนถึง รพ.กว่า 20%. สืบค้นเมื่อ 5 กุมภาพันธ์ 2567, จาก https://www.hfocus.org/content/2017/01/13297

Saba Yasien, Tabassum Alvi, Fazeela Moghal (2013). Does Perceived Social Support Predict Quality of Life in Psychiatric Patients?. Asian journal of social sciences & humanities. 2(4), 32-41.