การบริหารสถานศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ส่งผลต่อการดำเนินงานตามมาตรฐานการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กลุ่มเจ้าพระยาป่าสัก
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) ศึกษาการบริหารสถานศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและ การดำเนินงานตามมาตรฐานของ กศน.กลุ่มเจ้าพระยาป่าสัก 2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารสถานศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับการดำเนินงานตามมาตรฐานของ กศน.กลุ่มเจ้าพระยาป่าสัก และ 3) สร้างสมการพยากรณ์ การบริหารสถานศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ส่งผลต่อการดำเนินงานตามมาตรฐานของ กศน. กลุ่มเจ้าพระยาป่าสัก ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงสำรวจ โดยใช้แบบสอบถามซึ่งมีค่าความตรง (IOC) ระหว่าง 0.80 – 1.00 และค่าสัมประสิทธิ์ความเที่ยงแบบแอลฟาของแบบสอบถามทั้งฉบับ เท่ากับ 0.982 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครู กศน.กลุ่มเจ้าพระยาป่าสัก จำนวน 242 คน ใช้วิธีสุ่มแบบหลายขั้นตอน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปด้วยคอมพิวเตอร์ ผลการวิจัยพบว่า 1) การบริหารสถานศึกษาและการดำเนินงานตามมาตรฐานของ กศน. โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2) การบริหารสถานศึกษามีความสัมพันธ์กับการดำเนินงานตามมาตรฐาน กศน. กลุ่มเจ้าพระยาป่าสัก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .01 และ 3) การบริหารสถานศึกษาทำนายการดำเนินงานตามมาตรฐาน กศน. กลุ่มเจ้าพระยาป่าสัก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.01
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579.สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. สืบค้นเมื่อ 10 เมษายน 2568, จาก https://www.lampang.go.th/public60/EducationPlan2.pdf.
จรรยา ทีปาลา. (2564). แนวทางการบริหารสถานศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอำเภอบ้านไร่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานีเขต 2. วารสารวิจยวิชาการ, 4(3), 45– 59.
ณัฐสุดา ตะเภาพงษ์. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารสถานศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับประสิทธิผลของสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จังหวัดปราจีนบุรี เขต 1. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 12(2), 16–25.
ธงชัย ดีมูลพันธ์ และ วรกาญจน์ สุขสดเขียว. (2565). การบริหารสถานศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของสถานศึกษา ในสหวิทยศึกษาวังสีทา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 2. วารสารปรัชญาปริทรรศน์, 28(2), 236–249.
โยฑิน สมโนนนท์. (2565). สภาพและปัญหาการบริหารงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ.2564กรณีศึกษา: สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย.การประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่19. (น 1540-1551). มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน.
ลัดดา มะปะทา. (2566). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการน้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตของประชาชนตำบลแคน อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม. วิทยานิพนธ์ สาขารัฐประศาสนศาสตร. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
สุคลธรส มิ่งจันทร์, ในตะวัน กำหอม และ สุชีรา สายะรัตนชัย. (2567). ความสัมพันธ์ระหว่างหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในการบริหารสถานศึกษากับคุณภาพชีวิตครูของบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนวัดยกกระบัตร (ชุบราษฎร์นุสรณ์) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสาคร. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 18(2), 348–363.
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. (2565). มาตรฐาน กศน.ตำบล ปี 2565 สังกัด สำนักงาน กศน. สำนักงาน กศน. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. สืบค้นเมื่อ 3 ตุลาคม 2567,จากhttps://www.nfepbr.org/home1/index.php?option=com_content&view=article&id=2338:-2565&catid=39:2013-11-07-12-24-22&Itemid=129.
อุดมลักษณ์ คงคาเนรมิต และ วีระวัฒน์ อุทัยรัตน์. (2564). แนวทางการพัฒนาการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายเพื่อส่งเสริมการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(3), 44-58.
อุปสรา สิทธิพงษ์ และ จรัส อติวิทยาภรณ์. (2565). ปัจจัยการบริหารสถานศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ส่งผลต่อคุณลักษณะอันพึงประสงค์ผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติและนานาชาติครั้งที่ 13.(น.2169-5184).มหาวิทยาลัยหาดใหญ่.
Hoy, W., & Miskel, C. (2013). Educational Administration: Theory, Research, and Practice. (9th ed.). New York, NY: McGraw-Hill Higher Education.
Krejcie, R. V., & D. W. Morgan. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.
