The Study of Local Identities of Ban Chiang Yuen Catholic Community, Wern Phrabat Sub-district, Tha Uthen District, Nakhon Phanom Province

Main Article Content

Wisit Kidkhamsuan
Phattanaphong Tira
Preeyanoot Surinkaew

Abstract

            The purposes of this research were 1) to study the local history of Ban Chiang Yuen Catholic Community, 2) to study the local identity of Ban Chiang Yuen Catholic community in 3 aspects: beliefs, lifestyle and cultural traditions from documentary data and field data collected through interviews, observation and focus group discussion.


            The results of the study found that Chiang Yuen village was an important Christian community in the Catholic evangelization in Nakhon Phanom province. In the past, people in the village were “Suay” people who migrated from Lamnao province of the Lao People's Democratic Republic, with the French priest “Artino” leading the migration by sailing along Mekong River in search of a new abundant habitat.


            Regarding the local identity of the community: 1) for the aspect of beliefs, villagers of Ban Chiang Yuen believed in the Trinity – the Father, the Son and the Holy Spirit as "one God in three Divine persons" - and that Jesus Christ was the Son of God who was born as a human being and a Savior. This belief would not be changed. 2) For the aspect of lifestyle, villagers of Ban Chiang Yuen had adopted the 7 Sacred


            Sacraments and applied them to life, coexistence in society and culture. 3) For the aspect of cultural traditions, doctrines and practices in the Christian life were very closely related to the traditions of Ban Chiang Yuen Christians. Especially, the important traditions were extensively observed in the community, such as the Christmas star tradition and church festivities, which were Christian traditions that showed stability in religious beliefs, unity, and common awareness of community citizenship.


            However, this research should still study other aspects of the identity and other factors that caused the adjustment of villagers and communities in the globalization era as well as promoting villagers in the community to have more knowledge and understanding about religion to be more stable and able to live with various virtues appropriately according to the living conditions of each individual or community.

Article Details

Section
Research Articles

References

กาญจนา แก้วเทพ. (2538). การพัฒนาแนววัฒนธรรมชุมชน: โดยถือมนุษย์เป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพฯ: สภาคาทอลิกแห่งประเทศไทยเพื่อการพัฒนา.

เกลาดิอุส บาเย. (2527). ประวัติการเผยแพร่ศาสนาในภาคอีสานและประเทศลาว (พระสังฆราชไมเคิ้ล เกี้ยน เสมอพิทักษ์, ผู้แปล). กรุงเทพฯ: เรือนแก้ว.

คนึงนิด รุ่งเรือง, ปัณฉัตร หมอยาดี และจันทร์สมร ชัยศักดิ์. (2558). ศาสนาคริสต์กับการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของชุมชนโนนประเสริฐ ตำบลพะลาน จังหวัดอุบลราชธานี. ใน การจัดประชุมเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ครั้งที่ 5. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

ฉลาดชาย รมิตานนท์. (2550). อัตลักษณ์ วัฒนธรรม และการเปลี่ยนแปลง. เชียงใหม่: ศูนย์สตรีศึกษา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (อัดสำเนา).

ชม ติระ. (2561, 2 มิถุนายน). ปราชญ์ชาวบ้าน. [บทสัมภาษณ์].

ทวี โสริน. (2561, 29 พฤศจิกายน). บาทหลวง. [บทสัมภาษณ์].

นัทวัฒน์ หารู้. (2561, 24 พฤศจิกายน). ผู้ใหญ่บ้านเชียงยืน. [บทสัมภาษณ์].

นันทา ขุนภักดี. (2530). การวิเคราะห์ความเชื่อของชายไทยในสวัสดิรักษา (พิมพ์ครั้งที่ 2). นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

บัณฑิต พรมบุตร. (2561, 1 กรกฎาคม). ปราชญ์ชาวบ้าน. [บทสัมภาษณ์].

บำรุง บุญปัญญา. (2549). 3 ทศวรรษ แนวคิดวัฒนธรรมชุมชน. สุรินทร์: โครงการหนังสือดอกติ้วป่า.

บุญไทย กงเกตุ. (2561, 2 มิถุนายน). ปราชญ์ชาวบ้าน. [บทสัมภาษณ์].

บุญเรือง สิงห์แขก. (2561, 8 กรกฎาคม). ปราชญ์ชาวบ้าน. [บทสัมภาษณ์].

พรพิศ ดาบุตร. (2561, 22 พฤศจิกายน). ครูสอนศาสนา. [บทสัมภาษณ์].

พรรณี พลไชยยา. (2536). บทบาทของมิชชันนารีโรมันคาทอลิคในอีสาน ปี พ.ศ. 2424-2496 (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, มหาสารคาม.

พัชรินทร์ หารู้. (2561, 24 พฤศจิกายน). ปราชญ์ชาวบ้าน. [บทสัมภาษณ์].

รินรดา พันธ์น้อย. (2552). การดำรงอยู่และการปรับเปลี่ยนอัตลักษณ์ทางชาติพันธุ์ของประชาชนในสังคมพหุวัฒนธรรมในชุมชนบุ่งกะแทว จังหวัดอุบลราชธานี (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา) มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, อุบลราชธานี.

เริงฤทธิ์ พลนามอินทร์. (2552). ศาสนาคริสต์กับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนของชุมชนในภาคอีสาน (วิทยานิพนธ์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวัฒนธรรมศาสตร์). มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาสารคาม.

วัลลภา หัสการณ์. (2546). วิถีชีวิตและโลกทัศน์ของชนชั้นกลางคริสเตียน: ศึกษากรณีชุมชนคริสตจักรใจสมาน กรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาสังคมวิทยา) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, กรุงเทพฯ.

ศิขรา ศิริสาร. (2556). กระบวนการปฏิสัมพันธ์และการสร้างอัตลักษณ์ร่วมในแฟนเพจเฟซบุ๊ก: ศึกษากรณีแฟนเพจ

ฮิปคิงดอม. วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 24(3), 1-17.

ศิริพจน์ สกุลทอง. (2546). กระบวนการสืบทอดจากสื่อสัญลักษณ์ทางพิธีกรรม “ศีลศักดิ์สิทธิ์ 7 ประการ” ไปสู่ความเชื่อศรัทธาและการดำเนินชีวิตทางธุรกิจแบบมีจริยธรรมของชมชนชาวคริสต์ (โรมันคาทอลิก) ของโบสถ์พระมารดานิจจานุเคราะห์ กรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขานิเทศศาสตร์ธุรกิจ). มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, กรุงเทพฯ.

สาลินี มานะกิจ. (2548). ความเป็นมาและการเปลี่ยนแปลงของชุมชนคาทอลิกบ้านท่าแร่ จังหวัดสกลนคร พ.ศ. 2427-2508 (วิทยานิพนธ์มหาบัณฑิต สาขาประวัติศาสตร์). จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพฯ.

สำนักงานสารสาส์น. (2510). ประวัติพระศาสนจักรสากลและพระศาสนจักรในประเทศไทย (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: ไทยหัตถการพิมพ์.

เสรี ซาเหลา และคณะ. (2545). กลุ่มชาติพันธุ์: วัฒนธรรมและประเพณีจังหวัดนครสวรรค์. นครสวรรค์: สำนักวิจัยและบริการวิชาการ สถาบันราชภัฏนครสวรรค์.

เสรี พงศ์พิศ. (2545). ศาสนาคริสต์ (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: อัสสัมชัญ.

เสาวนีย์ จิตหมวด. (2531). กลุ่มชาติพันธุ์: ชาวไทยมุสลิม. กรุงเทพฯ: กองทุนสง่ารุจิระอัมพร.

อมรา พงศาพิชญ์. (2541). วัฒนธรรม ศาสนา และชาติพันธุ์: วิเคราะห์สังคมไทยแนวมานุษยวิทยา (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อันดรูว์ สำราญ วงศ์เสงี่ยม (บ.ก.). (2000). อัครสังฆมณฑลท่าแร่-หนองแสง ประวัติ ข้อมูล และการดำเนินงาน. สกลนคร: เอส.พี.เซอร์วิส (สมศักดิ์การพิมพ์).

เอกรินทร์ สังข์ทอง. (2555). พหุวัฒนธรรมศึกษา: อะไรคือสิ่งที่ผู้บริหารสถานศึกษาทุกคนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ควรรู้. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี, 23(1), 17-34.