กิจกรรมและปัจจัยทางกายภาพในพื้นที่สาธารณะเมืองเก่านครศรีธรรมราช
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มุ่งเน้นการศึกษากิจกรรมและปัจจัยทางกายภาพที่มีอิทธิพลต่อการใช้งานในพื้นที่สาธารณะเมืองเก่านครศรีธรรมราชโดยศึกษาแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับความหมายประเภทพื้นที่สาธารณะ รูปแบบกิจกรรมในพื้นที่สาธารณะ 3 รูปแบบ และปัจจัยทางกายภาพส่งผลต่อความสำเร็จในการใช้งานพื้นที่สาธารณะ 8 ปัจจัย การวิจัยนี้ใช้วิธีการ ทบทวนวรรณกรรมเพื่อคัดเลือกตัวอย่างในพื้นที่สาธารณะเมืองเก่านครศรีธรรมราช จำนวน 19 แห่ง และสำรวจกายภาพซึ่งสามารถจัดกลุ่มพื้นที่สาธารณะตามประโยชน์ใช้สอยได้ 5 ประเภท คือ พื้นที่สาธารณะเชิงประวัติศาสตร์เมือง พื้นที่สาธารณะเชิงราชการ พื้นที่สาธารณะเชิงนันทนาการ พื้นที่สาธารณะเชิงประวัติศาสตร์ผสมนันทนาการเมือง และพื้นที่เชิงประวัติศาสตร์ผสมราชการและนันทนาการเมือง จากนั้นทำการเก็บข้อมูลแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้งานภายในพื้นที่สาธารณะทั้ง19 แห่ง จำนวน 400 ตัวอย่าง โดยสำรวจความนิยมทำกิจกรรมและปัจจัยทางกายภาพ 8 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้งานในพื้นที่สาธารณะ เพื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบความนิยมกิจกรรมและด้านปัจจัยทางกายภาพที่มีอิทธิพลต่อการใช้งานในพื้นที่สาธารณะผลการวิจัยพบว่า 1) ความนิยมทำกิจกรรมที่มีเหมือนกันในพื้นที่สาธารณะทั้ง 5 ประเภท คือ กิจกรรมทางเลือกรองลงมาคือ กิจกรรมจำเป็น พบในพื้นที่สาธารณะ 4 ประเภท และกิจกรรมสังคม พบในพื้นที่สาธารณะ 1 ประเภท ตามลำดับ 2) ปัจจัยทางกายภาพซึ่งมีอิทธิพลที่สุดต่อการใช้งานพื้นที่สาธารณะทั้ง 5 ประเภท คือ การเข้าถึงพื้นที่ง่ายและสะดวก 3) ปัจจัยทางกายภาพที่มีอิทธิพลต่อการใช้งานพื้นที่สาธารณะแต่ละประเภท คือ ปัจจัยเอกลักษณ์ทางกายภาพ และปัจจัยด้านตำแหน่งพื้นที่ใกล้แหล่งทีพั่กหรือชุมชนซึ่งมีอิทธิพลต่อพื้นที่สาธารณะ 2 ประเภท โดยแต่ละปัจจัยดังต่อไปนี้มีอิทธิพลต่อพื้นที่สาธารณะเพียง 1 ประเภท คือ ปัจจัยด้านภูมิทัศน์ร่มรื่น สวยงาม ปัจจัยความปลอดภัยภายในพื้นที่และมีกิจกรรมหลากหลายปัจจัยด้านพื้นที่มีเอกลักษณ์ด้านกิจกรรม และสุดท้ายปัจจัยด้านสิ่งอำนวยความสะดวกทางภูมิทัศน์ ร้านค้า
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-ShareAlike 4.0 International License.
Copyright Transfer Statement
The copyright of this article is transferred to Journal of The Faculty of Architecture King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang with effect if and when the article is accepted for publication. The copyright transfer covers the exclusive right to reproduce and distribute the article, including reprints, translations, photographic reproductions, electronic form (offline, online) or any other reproductions of similar nature.
The author warrants that this contribution is original and that he/she has full power to make this grant. The author signs for and accepts responsibility for releasing this material on behalf of any and all co-authors.
เอกสารอ้างอิง
กาญจน์ นทีวุฒิกุล. (2550). ตรรกะของการใช้พื้นที่ว่างสาธารณะอย่างอเนกประโยชน์ในเมืองเชียงใหม่. (วิทยานิพนธ์การวางแผนภาคและเมืองดุษฎีบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย).
กำแหง อติโพธิ. (2553). มิติการใช้พื้นที่ว่างสาธารณะของเมือง กรณีศึกษาพื้นที่นันทนาการของเมืองนครนายก. วารสารวิชาการคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สจล. 10(1). 94-104.
ขวัญสรวง อติโพธิ. (2548). ที่ว่างในสังคมไทย. บรรยายพิเศษคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไขศรี ภักดิ์สุขเจริญ. (2551). ซอยลัดประหยัดพลังงาน: พื้นที่ว่างสาธารณะขนาดเล็ก-พื้นที่ทางสังคมของชุมชนไทย. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ชมพูนุท คงพุนพิน และภาวิณี เอี่ยมตระกูล. (2561). การเปลี่ยนผ่านบทบาทพื้นที่สาธารณะของประเทศไทย. วารสารวิชาการคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สจล. 26(1). 30-40.
ดวงจันทร์ อาภาวัชรุตม์ เจริญเมือง. (2542). เมืองในสังคมไทย กำเนิด พัฒนาการ และแนวโน้ม. เชียงใหม่: สถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ระวิวรรณ โอฬารรัตน์มณี. (2557). แนวคิดพื้นที่สาธารณะในมุมมองตะวันตกและตะวันออก ใน ว่าด้วยทฤษฎีทางสถาปัตยกรรม: พื้นที่สาธารณะและพื้นที่ทางสังคม. เชียงใหม่: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ระวิวรรณ โอฬารรัตน์มณี และวีระ สัจจกุล. (2555). การใช้พื้นสาธารณะเป็นถนนคนเดินแบบตลาดนัดในเมืองของไทย. กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ. 2561. มติ 11.1 การร่วมสร้างสรรค์พื้นที่สาธารณะในเขตเมืองเพื่อสุขภาวะสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน. เข้าถึงได้จาก: https://www.samatcha.org/site/resolution/e45a02ce-5d55-4bbb-8848-4e5a5cc15393/detail.
ศรีศักร วัลลิโภดม. (2554). พัฒนาทางสังคม-วัฒนธรรมไทย. กรุงเทพฯ: เมืองโบราณ.
Akkar, Z. M. ( 2005) . Questioning the "Publicness" of Public Spaces in Postindustrial Cities. International Association for the Study of Traditional Environments (IASTE). 16(2). 75-91.
Arendt, H. (1958). The Human Condition. 2nd ed. New York: McGraw-Hill.
Dijkstra, L. W. (2000). Public Spaces: A Comparative Discussion of the Criteria for Public Space. In R. Hutchison(Ed.) Constructions of Urban Space: Research in Urban Sociology. Stamford: JAI Press.
Dorothy C. Ibes. (2015). A Multi-dimension Classification and Equity of an Urban Park System: A Novel Methodology and Case Study Application. Landscape and Urban Planning. 2015(137), 122-137.
Gehl, J. (1987). Life between Buildings. New York: Van Nostrand Reinhold.
Gehl, J. (2010). Cities for People. Washington, DC: Island Press.
Hillier, B., & Hanson, J. (1984). The Social Logic of Space. New York: Cambridge University Press.
Hillier, B., Hanson, J., Penn, A., & Grajewski, T. (1993). Natural Movement: or, Configuration and Attraction in Urban Pedestrian Movement. Environment and Planning B: Planning and Design. 1992(20). 29-66.
Jacobs, J. (1961). The Death and Life of Great American Cities. New York: A Division of Random House.
Lennard, C., & Lennard, H. L. (1995). Livable Cities Observed. California: Gondolier Press.
Lim, W. SW. (2014). Public Space in Urban Asia. Singapore: World Scientific Publishing.
Marcus, C. C., & Francis, C. (1998). People Places: Design Guidelines for Urban Open Space. New York: Van Nostrand Reinhold.
Project for Public Space. (2008). Editorial: Great Public Spaces. Retrieved from: https://www.pps.org/article/land-matters-editorial.
Whyte, W. H. (1980). The Social Life of Small Urban Space. Washington: The Conservation Foundation Washington.
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. 3rd ed. New York: Harper and Row Publication.