การประเมินความพร้อมของกฎหมายเพื่อรองรับการเปิดเสรีการค้า บริการวิชาชีพสถาปัตยกรรมในอาเซียน

Main Article Content

อัธยานันท์ จิตรโรจนรักษ์
พัฑรา สืบศิริ
วรัญญู ศิริวรรณ์
พรรณวดี โรจนศิริ

บทคัดย่อ

บทความนี้มุ่งสำรวจและประเมินความพร้อมทางกฎหมายของประเทศไทยเพื่อรองรับการเปิดเสรีการค้าบริการวิชาชีพสถาปัตยกรรมภายใต้กรอบความตกลงอาเซียน โดยเน้นไปที่ข้อตกลงยอมรับร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangement: MRA) ของสาขาวิชาชีพสถาปัตยกรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงว่าด้วยบริการของอาเซียน (AFAS) ที่มีเป้าหมายในการเปิดเสรีการค้าบริการให้เป็นตลาดเดียว โดยชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการแก้ไขกฎหมายหลักคือพระราชบัญญัติสถาปนิกและกฎหมายอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศและบริบทการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกให้สถาปนิกจากประเทศสมาชิกอาเซียนสามารถเข้ามาประกอบวิชาชีพในประเทศไทยได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งนี้การเปิดเสรีการค้าบริการเป็นหนึ่งในพันธกรณีสำคัญที่ไทยมีต่อองค์การการค้าโลก (WTO) ภายใต้ความตกลงทั่วไปว่าด้วยการค้าบริการ (GATS) ซึ่งรวมถึงบริการทางวิชาชีพด้านสถาปัตยกรรม ในปี พ.ศ. 2550 ประเทศไทยได้ร่วมลงนามในข้อตกลงยอมรับรวมกันของอาเซียนในสาขาวิชาชีพสถาปัตยกรรม เพื่อกำหนดมาตรฐานและคุณสมบัติของ "สถาปนิกอาเซียน" (ASEAN Architect) ให้สามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานในประเทศสมาชิกได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามพระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ. 2543 ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นยังไม่มีบทบัญญัติที่รองรับการปฏิบัติวิชาชีพระหว่างประเทศได้อย่างชัดเจน ทำให้สภาสถาปนิกต้องดำเนินการทบทวนและแก้ไขกฎหมายเพื่อขจัดอุปสรรคทางกฎหมายและเตรียมความพร้อมสำหรับการดำเนินการตามข้อตกลงยอมรับร่วมกันฯ ในฉบับดังกล่าว


การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ได้แก่ 1) เพื่อศึกษากฎหมายของพระราชบัญญัติสถาปนิกและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการค้าบริการวิชาชีพสถาปัตยกรรม และ 2) เพื่อเสนอแนะแนวทางการพัฒนากฎหมายอนุบัญญัติตามข้อตกลงด้านการค้าบริการวิชาชีพสถาปัตยกรรมต่อองค์กรวิชาชีพ และสถาบันการศึกษา ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการประกอบวิชาชีพของสถาปนิกอาเซียน การทบทวนกฎหมายและข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง โดยได้ทบทวนและวิเคราะห์กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบแบ่งเป็นการพิจารณาสาระสำคัญของข้อตกลง MRA ด้านสถาปัตยกรรมที่ได้กำหนดคุณสมบัติของสถาปนิกอาเซียนไว้อย่างละเอียด เช่น การมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ผู้ประสงค์ขอขึ้นทะเบียนเป็นสถาปนิกอาเซียนต้องมีประสบการณ์ทำงานไม่น้อยกว่า 10 ปี และการพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่องเพื่อให้มีความรู้ด้านสถาปัตยกรรมที่ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ เป็นต้น การวิเคราะห์พระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ. 2543 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2566) เป็นการแก้ไขกฎหมายฉบับหลักที่เพิ่มบทบัญญัติให้สอดรับกับข้อตกลงระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับสถาปนิกต่างชาติที่ประสงค์จะขึ้นทะเบียนเป็นสถาปนิกอาเซียนในประเทศไทย ซึ่งผลจากการแก้ไขกฎหมายนี้ทำให้สภาสถาปนิกสามารถออกกฎหมายอนุบัญญัติที่จำเป็นเพื่อรองรับการทำงานของสถาปนิกต่างชาติได้ ตลอดจนศึกษากฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พิจารณากฎหมายที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการประกอบวิชาชีพของคนต่างด้าว เช่น พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 และประกาศกระทรวงแรงงานที่ห้ามคนต่างด้าวทำงานในวิชาชีพสถาปัตยกรรม โดยบทความนี้ชี้ให้เห็นว่าแม้กฎหมายเหล่านี้จะมีข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่เข้ามาทำงานตามข้อตกลงระหว่างประเทศ แต่ยังขาดความสอดคล้องและการเชื่อมโยงกับกฎหมายวิชาชีพโดยตรง ทำให้เกิดความสับสนในการปฏิบัติการ โดยงานวิจัยนี้ใช้วิธีการเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เน้นการวิเคราะห์เอกสาร (Documentary Analysis) การสัมภาษณ์ และการพิจารณาร่วมกับกลุ่มคณะทำงานของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อทำความเข้าใจช่องว่างและข้อจำกัดของกฎหมายที่มีอยู่ และนำมาประกอบการให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายอย่างมีเหตุผล


ผลการศึกษาพบว่าประเทศไทยได้เตรียมกฎหมายอนุบัญญัติที่จำเป็นสำหรับการขึ้นทะเบียนสถาปนิกอาเซียนไว้ค่อนข้างครอบคลุมทั้งสำหรับสถาปนิกไทยที่ต้องการเป็นสถาปนิกอาเซียนและสำหรับสถาปนิกต่างชาติที่ต้องการเข้ามาทำงานในประเทศไทย อย่างไรก็ตามมาตรการทางกฎหมายเหล่านี้ยังเป็นเพียงมาตรการเชิงรับและยังไม่ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายแรงงานวิชาชีพสถาปัตยกรรมในอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากยังมีข้อจำกัดในทางปฏิบัติ เช่น การที่สถาปนิกต่างชาติยังต้องขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพในประเทศที่ไปทำงาน และกฎหมายภายในของแต่ละประเทศที่ยังคงเป็นอุปสรรค ดังนั้นผู้วิจัยจึงเสนอแนะว่านอกจากการเตรียมพร้อมด้านกฎหมายแล้ว ควรมีมาตรการเชิงรุกเพื่อส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัติวิชาชีพร่วมกันอย่างแท้จริง เช่น การส่งเสริมให้มีการเจรจาและร่วมมือกับองค์กรวิชาชีพในประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อจัดทำโครงการนำร่อง การประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ MRA และการเปิดเสรีการค้าบริการผ่านสมาคมวิชาชีพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สถาปนิกไทยและผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมก่อสร้างมีความเข้าใจที่ถูกต้องและเตรียมตัวได้อย่างเหมาะสม การปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาที่มีความเชื่อมโยงกับสถาปัตยกรรมภายในกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของนักศึกษาและบัณฑิตไทยในตลาดแรงงานระหว่างประเทศ ตลอดจนการออกแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างสภาสถาปนิกและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการโปร่งใสและปฏิบัติได้จริง

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
จิตรโรจนรักษ์ อ., สืบศิริ พ., ศิริวรรณ์ ว., & โรจนศิริ พ. (2025). การประเมินความพร้อมของกฎหมายเพื่อรองรับการเปิดเสรีการค้า บริการวิชาชีพสถาปัตยกรรมในอาเซียน. Asian Creative Architecture, Art and Design, e276135. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/archkmitl/article/view/276135
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Architect ACT B.E.2543 (2000).

Architect ACT (No.2) B.E. (2023).

ASEAN MUTUAL RECOGNITION ARRANGEMENT ON ARCHITECTURAL SERVICES. (2007). https://investasean.asean.org/files/upload/MRA%20Architecture.pdf

ASEAN Architect Council (AAC). (2024, June 4). Report of the Forty-Eighth Meeting of the ASEAN Architect Council (48thAAC). [Unpublished manuscript]

ASEAN Architect Council (AAC). (2024, October 21). Report of the Forty-Ninth Meeting of the ASEAN Architect Council (49thAAC). [Unpublished manuscript]

Bureau of Legal Affairs, Secretariat of the Senate. (2021). Documents for preliminary consideration: draft of Architect ACT B.E. …. Secretariat of the Senate. [Unpublished manuscript] (in Thai)

Business Services Sectoral Working Group (BSSWG). (2024, June 5). Report of the Meeting of Business Services Sectoral Working Group (BSSWG) [Unpublished manuscript] Department of Trade Negotiation. (2020). http://www.dtn.go.th (in Thai)

Foreign Business Act, B.E. 2542 (1999). Foreign’s Working Management Emergency Decree, (No.2) B.E. 2561(2018).

Fukunaga, Y. (2015). Assessing the Progress of ASEAN MRAs on Professional Services. Economic Research Institute for ASEAN and East Asia. https://www.eria.org/ERIA-DP-2015-21.pdf

Jitrojanaruk, A., Suebsiri, P., Janjamsai, & M., Buranasing, B. (2019). The Development of Architectural Education from the ASEAN Framework Agreement on Trade in Services under the ASEAN community. Thailand Science Research and Innovation. (in Thai)

Jitrojanaruk, A., Suebsiri, P., Janjamsai, & M., Buranasing, B. (2021). An Analysis of Problems and Guideline on Becoming ASEAN Architect. Phanakorn Rajabhat University. (in Thai)

Office of the Council of State. Mutual Recognition Arrangements. (2023). https://lawforasean.ocs.go.th/File/files/1524772028.5df38c3a1391fcfe6806ab10e32ca25f.pdf (in Thai)

Research Centre for Law and Development, Faculty of Law, Chulalongkorn University. (2009). The Study of the impact of Becoming architectural profession on trade in services. Architect Council of Thailand. (in Thai)

Thailand Monitoring Committee. (2007). Assessment for ASEAN Architect. Architect Council of Thailand.

Thailand Development Research Institute. (2022). Creative industries development report: Architecture. https://tdri.or.th/2024/03/wb208/ (in Thai).

Vadhanasindhu, P. (2009). Architectural Profession on Trade in Services. Architect Council of Thailand. (in Thai)