ศึกษาและวิเคราะห์การบังคับใช้กฎหมายเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์: กรณีชายหญิงที่อยู่กินกันฉันสามีภรรยา
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเพื่อศึกษาอุปสรรคที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ของต่างประเทศและประเทศไทย ศึกษาวิเคราะห์ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและบรรลุวัตถุประสงค์การนำเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์มาใช้ในสังคมไทย จากการศึกษากฎหมายของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สาธารณรัฐฝรั่งเศษ ประเทศเครือรัฐออสเตรเลีย สาธารณรัฐอินเดีย อังกฤษ พบว่าทุกประเทศให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธ์ในการบำบัดรักษามนุษย์ที่ไม่สามารถมีบุตรได้ หรือมีบุตรได้ยากกว่าปกติตามธรรมชาติของระบบสืบพันธ์ แต่ประเทศไทยนั้น พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดจากเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 เป็นกฏหมายที่จำกัดสิทธิในการเข้ารับบริการบำบัดรักษาเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ไว้เฉพาะแต่คู่สมรสหรือสามีภริยาโดยชอบด้วยกฏหมายเท่านั้น สิทธิของชายหญิงที่อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยานั้นกฏหมายฉบับนี้ไม่รับรองการเข้ารับบริการ ในขณะเดียวกันกฏหมายของต่างประเทศที่กล่าวมาข้างต้นนั้นส่วนใหญ่จะยังคงให้สิทธิอย่างเท่าเทียมในคู่รักทุกประเภท แต่ประเทศส่วนใหญ่จะมีมาตรการรองรับหรือมีการพิจารณาถึงความเหมาะสม ในขณะเดียวกันบางประเทศก็ไม่ได้บัญญัติถึงมาตรการแต่ก็ได้ความสำคัญกับคู่รักที่ประสบปัญหาภาวะการมีบุตรยากในทุกคู่ จากการศึกษาคณะผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะ กล่าวคือ ควรมีการแก้ไขบทบัญญัติหลักเกณฑ์การให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ อย่างน้อยควรให้สิทธิคู่รักประเภทชายหญิงที่อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยา มีสิทธิที่จะเข้ารับการบำบัดรักษาโดยใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์โดยวิธีผสมเทียม ซึ่งปัจจุบัน การผสมเทียมต้องกระทำต่อหญิงที่มีสามีที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นไปตามมาตรฐานการให้บริการเกี่ยวกับการผสมเทียมที่แพทยสภาประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ และควรเพิ่มมาตรการตรวจสอบความเหมาะสมในการเข้าใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ เพื่อไม่ให้มีการใช้เทคโนโลยีในการที่ผิด โดยควรเพิ่มอำนาจของคณะกรรมการในการตรวจสอบความเหมาะสมในการเข้าใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ เพื่อให้เป็นไปตามความเหมาะสมในการใช้เทคโนโลยีชนิดนี้ให้ไปเป็นไปโดยความเป็นธรรมและจำเป็นตามภาวะการมีบุตรยาก เป็นต้น
Article Details
- ผู้เขียนต้องยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กองบรรณาธิการวารสารกำหนด และผู้เขียนต้องยินยอมให้บรรณาธิการ แก้ไขความสมบูรณ์ของบทความได้ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนเผยแพร่
- ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียน แต่วารสารเทคโนโลยีภาคใต้คงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตีพิมพ์ครั้งแรก โดยเหตุที่บทความนี้ปรากฏในวารสารที่เข้าถึงได้จึงอนุญาตให้นำบทความไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา แต่มิใช่เพื่อการพาณิชย์
เอกสารอ้างอิง
https://mindinprogress.wordpress.com/2009/05/09/artificial-insemination-in-germany-a-roundup/.
Joint Standing Committee on Community Development. (2003). Report on Amendments to The Relationships
(Consequential Amendments) Bill.
Jongwutwet, T. (2014). 'IUI ’hope of a new life Safe and effective. Retrieved February 20, 2016, from
www.vejthani.com/TH/Article/'IUI’ ความหวังแห่งชีวิตใหม่ ที่ปลอดภัยและได้ผลดี. [in Thai]
Prakobboon, T. (2014). Infertility Clinic - Standard of Hospital "Um Boon". Retrieved February 14, 2016, from
homicidal28.rssing.com /chan-14922840/all_p97.html. [in Thai]
The American Pregnancy Association. (2016). Gamete Intrafallopian Transfer: GIFT. Retrieve September 2, 2016, from
https://americanpregnancy.org /infertility/gamete-intrafallopian-transfer/.
The American Pregnancy Association. (2017). In Vitro Fertilization: IVF. Retrieve July 1, 2017, from
https://americanpregnancy.org/ infertility/in-vitro-fertilization/.
The American Pregnancy Association. Zygote Intrafallopian Transfer: ZIFT. Retrieve July 10, 2017, from
americanpregnancy.org/ infertility/ zygote-intrafallopian-transfer/.
Warnock Report of the Committee of Inquiry into Human Fertilization and Embryology. (2009). Retrieve June 27, 2017,
from https://www.hfea.gov.uk/docs/ Warnock_Report_of_the_Committee_of_Inquiry_into_Human_Fertilisation_
and_Embryology_1984.pdf.
WHO Scientific Group. (1992). Recent advances in medically assisted conception. WHO Technical Report Series, 820,
1-7.
