การยอมรับและบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการในประเทศสมาชิกอาเซียน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ประการแรกเพื่อศึกษาความสอดคล้องระบบกฎหมายและระบบการอนุญาโตตุลาการในประเทศสมาชิกอาเซียน ประการที่สองเพื่อศึกษาแนวทางปฏิบัติการยอมรับและบังคับตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการต่างประเทศในประเทศสมาชิกอาเซียน และประการที่สามเพื่อศึกษาขอบเขตของความสงบเรียบร้อยในบริบทคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการในประเทศสมาชิกอาเซียน โดยจำกัดขอบเขตการศึกษากฎหมายอนุญาโตตุลาการของประเทศสมาชิกอาเซียน การอนุวัตรกฎหมายอนุญาโตตุลาการในประเทศสมาชิกอาเซียนตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการยอมรับและการบังคับตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการต่างประเทศ ค.ศ.1958 และกฎหมายแม่แบบว่าด้วยการอนุญาโตตุลาการพาณิชย์ระหว่างประเทศ ค.ศ.1985 ของคณะกรรมาธิการแห่งสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายการค้าระหว่างประเทศ ด้วยวิธีศึกษาวิจัยเอกสาร เพื่อให้ได้มาซึ่งหลักการและแนวปฏิบัติว่าด้วย การยอมรับและบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการในประเทศสมาชิกอาเซียน
จากการศึกษาพบว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าเป็นภาคีและให้สัตยาบันอนุสัญญานิวยอร์ก ค.ศ.1958 และมีการอนุวัตรกฎหมายอนุญาโตตุลาการตามอนุสัญญานิวยอร์ก ค.ศ. 1958 จึงถือได้ว่าประเทศสมาชิกอาเซียนยอมรับบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่างประเทศ แต่เนื่องจากความแตกต่างด้านระบบกฎหมาย โครงสร้างทางสังคมและทัศนคติในกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการ เป็นผลให้รายละเอียดและขั้นตอนของการยอมรับบังคับตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการต่างประเทศในประเทศสมาชิกอาเซียนยังคงมีความแตกต่างกัน โดยประเทศสมาชิกอาเซียนสามารถขจัดปัญหาดังกล่าวได้ด้วยการสร้างแนวปฏิบัติ หรือข้อตกลงระหว่างสมาชิกอาเซียนในรูปพิธีสาร ในระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนตามอนุสัญญานิวยอร์ก 1958 มาตรา 7(1) สำหรับมูลเหตุแห่งการปฏิเสธไม่บังคับตามคำชี้ขาด อันเนื่องมาจากการบังคับตามคำชี้ขาดนั้นจะเป็นการขัดแย้งกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จากการศึกษาพบว่า คำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการที่ขัดแย้งกับความสงบเรียบร้อยควรมีขอบเขตใน 2 ลักษณะ คือ 1) ความสงบเรียบร้อยด้านกระบวนพิจารณา กับ 2) ความสงบเรียบร้อยด้านเนื้อหา สำหรับการตีความของศาลนั้น ศาลควรจะตีความอย่างแคบเฉพาะที่เกี่ยวกับ “ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนระหว่างประเทศ” ภายใต้แนวทาง 3 ประการ คือ 1) ขัดต่อหลักพื้นฐานความยุติธรรม หรือศีลธรรมอันดีของประชาชนระหว่างประเทศ 2) ขัดต่อหลักประโยชน์สาธารณะ และ 3) ขัดต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ สำหรับแนวทางการยอมรับและบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการในประเทศสมาชิกอาเซียนนั้น ประเทศสมาชิกควรใช้ช่องทางผ่านองค์กรอาเซียนด้านกฎหมาย เริ่มจากสมาคมนักกฎหมายอาเซียน หรือที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านกฎหมาย ผ่านไปยังที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านกฎหมาย ส่งต่อไปยังเลขาธิการอาเซียนนำเข้าสู้ที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน เพื่อให้รับรองในลักษณะข้อตกลงอาเซียน กรอบความร่วมมืออาเซียน หรือแนวปฏิบัติว่าด้วยการบังคับตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการภายในอาเซียน
Article Details
- ผู้เขียนต้องยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กองบรรณาธิการวารสารกำหนด และผู้เขียนต้องยินยอมให้บรรณาธิการ แก้ไขความสมบูรณ์ของบทความได้ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนเผยแพร่
- ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียน แต่วารสารเทคโนโลยีภาคใต้คงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตีพิมพ์ครั้งแรก โดยเหตุที่บทความนี้ปรากฏในวารสารที่เข้าถึงได้จึงอนุญาตให้นำบทความไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา แต่มิใช่เพื่อการพาณิชย์