การมีปฏิสัมพันธ์ในการเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิงโดยยึดรูปแบบสมรรถนะและทฤษฎีการเรียนรู้ของผู้ใหญ่

Main Article Content

Noppadol Prammanee

บทคัดย่อ

อินเทอร์เน็ตเป็นที่ยอมรับและนำมาประยุกต์ใช้กันอย่างแพร่หลายในการเรียนการสอนผ่านระบบอีเลิร์นนิง ครู อาจารย์จำนวนมากที่ยังไม่มีประสบการณ์การสอนผ่านระบบอีเลิร์นนิง ได้รับการสนับสนุนให้พัฒนาวัสดุ/อุปกรณ์การเรียนการสอนผ่านระบบอีเลิร์นนิง ดังนั้นบทความนี้จึงนำเสนอการวิเคราะห์รูปแบบทั่วไปสำหรับการออกแบบการเรียนการสอนผ่านระบบอีเลิร์นนิงโดยใช้วิธีการทบทวนวรรณกรรม และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องรวมทั้งการมีปฏิสัมพันธ์ทั้ง 4 รูปแบบในระบบอีเลิร์นนิง ได้แก่ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับเนื้อหา ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับเนื้อหา ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน และปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน


เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนผ่านระบบอีเลิร์นนิงมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผู้เขียนได้สังเคราะห์รูปแบบสมรรถนะ รูปแบบการปฏิสัมพันธ์ และทฤษฎีการเรียนรู้ของผู้ใหญ่กับรูปแบบการปฏิสัมพันธ์ทั้ง 4 รูปแบบ ประเภทแรก ได้แก่ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับเนื้อหา ซึ่งผู้สอนที่สอนผ่านระบบอีเลิร์นนิงจะต้องจัดการเรียนการสอนให้ครอบคลุมลักษณะรายวิชา ประเภทที่สอง ได้แก่ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับเนื้อหา ซึ่งเกิดขึ้นจากการสังเคราะห์แนวคิดด้านสมรรถนะเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียน ประเภทที่สาม ได้แก่ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน โดยใช้รูปแบบและยุทธศาสตร์ในการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน ขั้นตอนสุดท้าย ได้แก่ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียนซึ่งเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของนักศึกษาเป็นผู้ใหญ่เพื่อการพัฒนาอาชีพหรือการปรับปรุงตนเอง

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
Prammanee, N. (2017). การมีปฏิสัมพันธ์ในการเรียนการสอนแบบอีเลิร์นนิงโดยยึดรูปแบบสมรรถนะและทฤษฎีการเรียนรู้ของผู้ใหญ่. วารสารเทคโนโลยีภาคใต้, 10(2), 199–214. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/journal_sct/article/view/104910
ประเภทบทความ
บทความวิชาการ