การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายใน ด้วยการปฏิบัติตามแนวจิตตปัญญา เพื่อเสริมสร้างความสามารถทางอารมณ์ของครู ในโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็ก ในภาคตะวันออก
Main Article Content
บทคัดย่อ
การนิเทศการศึกษาจากภายนอกสถานศึกษา โดยศึกษานิเทศก์นอกสถานศึกษา ยังมีปัญหาทั้งด้านองค์กร และบุคลากรนิเทศที่มีจำนวนไม่เพียงพอ สถานศึกษาทุกแห่งจำเป็นต้องพัฒนา และช่วยเหลือตนเอง โดยจัดให้มีการนิเทศภายในสถานศึกษาขึ้น การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพัฒนาและผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายใน ด้วยการปฏิบัติตามแนวจิตตปัญญา เสริมสร้างความสามารถทางอารมณ์ของครู ในโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็ก ในภาคตะวันออก แบ่งเป็น 3 ระยะคือ 1) การศึกษาสภาพการนิเทศภายในของโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็ก ในภาคตะวันออก 65 แห่ง 2) การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายใน ด้วยการปฏิบัติตามแนวจิตตปัญญา โดยการถอดบทเรียนจากสถานศึกษาต้นแบบที่ดี และการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ และ 3) การศึกษาผลการใช้รูปแบบ จากการนำรูปแบบไปทดลองใช้กับโรงเรียนนำร่อง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม แบบวิเคราะห์เนื้อหา แบบประเมินความพึงพอใจ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก และคู่มือการใช้รูปแบบ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพการนิเทศภายในโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็ก ในภาคตะวันออก โดยรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก 3 อันดับแรก ได้แก่ ด้านการวางแผนการนิเทศ ด้านการประเมินผล และด้านการปฏิบัติในการนิเทศ ตามลำดับ 2) การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายใน ด้วยการปฏิบัติตามแนวจิตตปัญญา เพื่อเสริมสร้างความสามารถทางด้านอารมณ์ของครูในโรงเรียนขนาดเล็ก ในภาคตะวันออก ตามคู่มือประกอบด้วย การใคร่ครวญ การฟังอย่างลึกซึ้ง และการทำสมาธิ ในแต่ละหน่วยมี 4 องค์ประกอบย่อย ได้แก่ แนวคิด วัตถุประสงค์ ตารางขั้นตอนจัดกิจกรรม และเครื่องมือวัดประเมินผล ทั้งนี้ รูปแบบการนิเทศภายใน ผ่านการประเมิน ทั้งด้านความเป็นไปได้ และความเหมาะสม อยู่ในระดับมาก และ 3) ผลการใช้รูปแบบการนิเทศภายใน ที่ประเมินโดยครูมาทดลองการฝึกการใช้รูปแบบการนิเทศภายใน พบว่า ความสามารถทางด้านอารมณ์โดยรวม หลังการใช้รูปแบบมีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และมีความพึงพอใจในระดับมาก ผลการวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์โดยตรงกับผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และครูจะได้นำไปใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการพัฒนาความสามารถทางด้านอารมณ์ ในการจัดการเรียนการสอนให้นักเรียน และผลประโยชน์ทางอ้อมกับนักเรียนได้รู้จัก การใคร่ครวญ การฟังอย่างลึกซึ้ง และการทำสมาธิ ซึ่งจะส่งผลต่อการเกิด “ ปัญญาภายใน”
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
- ผู้เขียนต้องยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กองบรรณาธิการวารสารกำหนด และผู้เขียนต้องยินยอมให้บรรณาธิการ แก้ไขความสมบูรณ์ของบทความได้ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนเผยแพร่
- ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียน แต่วารสารเทคโนโลยีภาคใต้คงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตีพิมพ์ครั้งแรก โดยเหตุที่บทความนี้ปรากฏในวารสารที่เข้าถึงได้จึงอนุญาตให้นำบทความไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา แต่มิใช่เพื่อการพาณิชย์
เอกสารอ้างอิง
Afework, E. A., Frew, A.T., & Abeya, G. G. (2016). Cluster Supervision Practice in Primary School of Jimma Zone (Doctoral Dissertation), Jimma University Ethiopia.
Chaibang, W. (2017). Mental Education and the Development of Inner Wisdom. Mahasarakham: Apichart Printing Partnership. [In Thai]
Cogan, D. (1973). The Supervision and Evaluation of High School Principal as Described by Central Office Administrators. New York: Mc Grew Hill.
Glickman, C.D., Gordon, S.P., & Ross-Gordon, J. M. (2007). Supervision and Curriculum Development: Instructional Leadership: An Approach (7th ed.). Boston: Allyn & Bacon.
Harris, Ben M. (1963). Supervisory Behavior in Education. Englewood Cliffs, New Jersey : Prentice-Hall.
Jarupaisan, T. (2020). From the Article Titled Emotional Intelligence. Retrieved 23 January 2021, from https://www.workwithpassiontraining.com/17256345/emotional-intelligence. [In Thai]
Keeves, P.J. (1988). “Model and Model Building” Educational Research Methodology and Measurement: An International Handbook. Oxford: Pergamum Press.
Office of Education Council. (2018). Thai Education Status Report. Kurusapa Printing Ladpro. [in Thai]
Panich, V. (2004). Mindful Learning. Retrieved 23 January 2021, from http://jitwiwat. blogspot. com/2004/11/ [in Thai]
Thapnoi, S., & Meesup, P., & Thaphan, L. (2016). Talent development in 20 terms of being a lecturer for teachers at the Kamphaeng Phet Provincial Special Education Center by using research participant action. Journal of the Humanities and Social Sciences Graduate School Phibunsongkhram Rajabhat University, 10(1), 217, [in Thai]
Triranaopass, S., Jai-ngam, S., & Keawsi, T. (2017). The development of a contemplative education learning model for mainstreaming schools. Journal of the Humanities and Social Sciences Graduate School Phibunsongkhram Rajabhat University, 11(2), 44. [in Thai]
Srichat, Y., & Piyakul, A. (2020). Development of emotional intelligence through contemplative activity. study for secondary school 1. Mahasarakham Graduate Studies Journal Sakonnakhon Rajabhat University, 17(77), 155. [in Thai]
Utranan, S. (1987). Educational Supervision: Theoretical Principles and Practice. Bangkok: Siam Card. [In Thai]
Wongnutarat, P. (2010). The Psychology of Personal Management. Bangkok: Bangkok Supplemental Media Center. [in Thai]