การพัฒนาสุขภาวะทางสังคมของผู้สูงวัยและผู้พิการพหุวัฒนธรรม จังหวัดเชียงรายเพื่อรองรับวิถีชีวิตปกติใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้มุ่งพัฒนาแนวทางส่งเสริมการพัฒนาสุขภาวะทางสังคมของผู้สูงวัยและผู้พิการพหุวัฒนธรรมอย่างมีส่วนร่วมเพื่อรองรับวิถีชีวิตปกติใหม่ ในอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ด้วยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม (PAR) ผู้ให้ข้อมูลหลัก 12 คน ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการด้านร่างกาย ผู้นำชุมชนระดับตำบล ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และตัวแทนองค์กรชุมชน ได้แก่ กลุ่มส่งเสริมอาชีพผู้พิการ กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มแกนนำเยาวชนชาติพันธุ์ ด้วยเครื่องมือวิจัย แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง การสนทนากลุ่ม และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผลการวิจัย พบว่า 1) สถานการณ์การระบาดของโรคอุบัติใหม่ หรือ Covid-19 ส่งผลต่อการปรับตัวของผู้พิการและ ผู้สูงอายุพหุวัฒนธรรม ในรูปแบบสังคมปกติใหม่ ทั้งในวิถีชีวิตประจำวัน และวิถีชุมชน ซึ่งมีการปรับตัวอย่างบูรณาการกับทุนทางสังคมและภูมิปัญญาในพื้นที่ เช่น การดูแลตนเองตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาด Covid-19 มีการสร้างความเข้าใจจากการติดต่อสื่อสาร การให้ความรู้จากผู้นำชุมชน และหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ มีแนวทางเสริมสร้างความเข้าใจในการดูแลสุขภาพตนเองเบื้องต้น ควบคู่ไปกับการพัฒนาสุขภาวะทางสังคมจากความเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ และ 2) การพัฒนาสุขภาวะทางสังคม พบว่า มีปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ บริบทที่เกี่ยวข้องกับความต้องการการดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการด้านร่างกายในชุมชน โดยผลการวิจัยชี้ให้เห็นถึงศักยภาพการดูแลระดับครอบครัว และชุมชนอย่างมีส่วนร่วม ต่อยอดสู่การจัดระเบียบทางสังคม การพัฒนาศักยภาพให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ และการพัฒนาสุขภาวะทางสังคมในวิถีชีวิตปกติใหม่ของชุมชนอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
- ผู้เขียนต้องยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กองบรรณาธิการวารสารกำหนด และผู้เขียนต้องยินยอมให้บรรณาธิการ แก้ไขความสมบูรณ์ของบทความได้ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนเผยแพร่
- ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียน แต่วารสารเทคโนโลยีภาคใต้คงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตีพิมพ์ครั้งแรก โดยเหตุที่บทความนี้ปรากฏในวารสารที่เข้าถึงได้จึงอนุญาตให้นำบทความไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา แต่มิใช่เพื่อการพาณิชย์
เอกสารอ้างอิง
Barnes, S.J. (2020). Information management research and practice in the post-Covid-19 world. International Journal of Information Management, 55, 1-4., doi.org/ 10.1016/j.ijinfomgt.2020.102175
Chonirat, A. (2020). Factors Predicting Healthy Aging of the Elderly (Master’s Thesis). Nursing Mahidol University, Bangkok. [in Thai].
Hansen-Kyle, L. (2005). A concept analysis of healthy aging. Nursing Form, 42(2), 45-57.
Hu, R. (2020). Covid-19, smart work, and collaborative space: a crisis-opportunity perspective. Journal of Urban Management, 9 (August), 1-5, doi.org/ 10.1016/j.jum.2020.08.001.
Office of the National Economic and Social Development Council-NESDC. (2021). Thai Social Conditions. 19, No. 3, August 2021.
Phoowachanathipong, K., Udomtamanupab, M., Puripanyo, P.C., Buasiri, A., &, Ariyasripong, A. (2020). The effects of self-development activities for Buddhism holistic well-being of youths in learning center of Buddhism and social development of Wat Suthiwararam. Journal of Social Science and Buddhistic Anthropology, 5(3), 34-52. [in Thai].
Rojchaphot, K., Tongkhambanchong, S., & Supwirapakorn, W. (2019). Family well-being in the context of Thai society: causal modeling and comparison of differences between groups. Journal of the Humanities and Social Sciences Mahasarakham University, 38(3), 30-42. [in Thai].
Sinchaiwanichakul, C., &, Kespichayawattana, J. (2018). Factors related to healthy aging among the older persons in communitydwelling of Bangkok Metropolitan. Journal of the Royal Thai Army Nurses, 19(Supplement), 100-109. [in Thai].
Tachasuksri, T., Sananreangsak, S., & Kuljeerung, O. (2016). Health promotion model by the community participation: case study of people with disabilities. The Journal of Faculty of Nursing Burapha University, 24(3), 47-58. [In Thai]