นวัตกรรมการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในจังหวัดนครศรีธรรมราช
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
สืบเนื่องจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของสัดส่วนผู้สูงอายุ ส่งผลให้การเตรียมความพร้อมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุผ่านรูปแบบการบูรณาการการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่ผ่านมาทุกภาคส่วนมีการดำเนินการดังกล่าว แต่ไม่สอดคล้องกับบริบทการปฏิบัติในพื้นที่ ส่งผลให้เกิดความซ้ำซ้อน สิ้นเปลืองทรัพยากร และปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งนำไปสู่การกำหนดวัตถุประสงค์ในการศึกษาครั้งนี้ เพื่อวิเคราะห์สภาพทั่วไปในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ตลอดถึงการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย เพื่อนำไปสู่การเสนอนวัตกรรมการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยใช้การเก็บข้อมูลจากเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึกจาก
ผู้ที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นสภาพทั่วไปและความต้องการในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ จากภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ตัวแทนผู้สูงอายุ และนักวิชาการ โดยใช้วิธีการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาและตรวจสอบความถูกต้องด้วยการวิเคราะห์แบบสามเส้า ผลการวิจัย พบว่า 1) สภาพปัญหาของผู้สูงอายุพบประเด็นปัญหาทุกด้านและการรวมกลุ่มของผู้สูงอายุจะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้ง 5 ด้าน แต่ปัญหาสุขภาพเป็นปัญหาเร่งด่วน จำเป็นต้องสร้างกลไกการดูแลโดยครอบครัวและชุมชน ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและเทคโนโลยีผู้สูงอายุและบุคคลในครอบครัวตื่นตัวไม่ดีเท่าที่ควร จำเป็นต้องมีหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่เข้ามาส่งเสริมให้ความรู้ 2) การบริหารจัดการของภาคีเครือข่ายขาดการบูรณาการข้อมูลและไม่ทราบภารกิจซึ่งกันและกันส่งผลให้ไม่เกิดการประสานและการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร 3) นวัตกรรมการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย 3.1 การสร้างกระบวนการเรียนรู้ 3.2 การบูรณาการภาคส่วนต่าง ๆ 3.3 การรวมกลุ่ม 3.4 การเชื่อมโยงแผนระหว่างองค์กร และ 3.5 การสร้างความสัมพันธ์กันต่อเนื่อง ดังนั้น การศึกษานี้ จะเป็นนวัตกรรมที่เกิดจากการบริหารจัดการของภาคีเครือข่ายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุครอบคลุมทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ ด้านสุขภาพ ด้านสังคม ด้านเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านเทคโนโลยี ในการแก้ไขปัญหาตรงตามความต้องการและเหมาะสมกับบริบทพื้นที่อย่างยั่งยืน
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
- ผู้เขียนต้องยินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กองบรรณาธิการวารสารกำหนด และผู้เขียนต้องยินยอมให้บรรณาธิการ แก้ไขความสมบูรณ์ของบทความได้ในขั้นตอนสุดท้ายก่อนเผยแพร่
- ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียน แต่วารสารเทคโนโลยีภาคใต้คงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตีพิมพ์ครั้งแรก โดยเหตุที่บทความนี้ปรากฏในวารสารที่เข้าถึงได้จึงอนุญาตให้นำบทความไปใช้เพื่อประโยชน์ทางการศึกษา แต่มิใช่เพื่อการพาณิชย์
เอกสารอ้างอิง
Chamsaeng, C., Kensila, U., Tangjaidee, N., Kongsomboon, K. (2014). Factors Affecting the Quality of Life of Nursing Personnel Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn Medical Center Nakhon Nayok Province, Year 2014. Retrieved September 8, 2024, from,http://thesis.swu.ac.th/swufac/Med/ Chumporn_C_R440190. pdf. [in Thai]
Charoenwongsak, K. (2012). Network management is an important strategy for success educational reform. Journal of Management and Control, Mahasarakham University. 4(1), 193-206. [in Thai]
Group to strengthen and develop network potential Elderly Empowerment Division. (2021). Current Aging Society and Economy in Thailand. Retrieved September 28, 2024, from https://www.dop.go.th/th/know/15/926. [in Thai]
Nakhon Si Thammarat Provincial Office of Social Development and Human Security. (2022). Report on the Social Situation in Nakhon Si Thammarat Province, Year 2022. Retrieved September 28, 2024 fromhttps://drive.google.com/file/d/163EE4jCWsgqooRLKLjQgk4ivh331pv10/view. [in Thai]
National Statistical Office Ministry of Digital Economy and Society. (2022). Survey of the use of Information and Communication Technology in Households. Retrieved May 19, 2024, from http://www.nso.go.th/sites/2014/DocLib13/2565/full_report_q2_65.pdf. [in Thai]
Phalasuek, R., & Thanomchayathawatch, B. (2017). A Family Model for Older People Care. The Southern College Network Journal of Nursing and Public Health, 4(3), 135-150. [in Thai]
Pinprathip, P. (2019). Health Inequality. Bangkok: National Health Commission Office. Retrieved September 19, 2024, from https://infocenter.nationalhealth.or.th. [in Thai]
Rodjarkpai, Y., & Rojpaisankit, K. (2019). Development of Social Networks in Caring for the Elderly. Research Project on Income Budget Type from Government Subsidies (National Budget) Fiscal Year 2017. Burapha University. Retrieved May 19, 2024, from http://dspace.lib.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/3676 [in Thai]
Siri, S. (2023). Preparation for entering the aging society of the people in Phetchabun Province. Interdisciplinary Journal of Innovation Periscope, 6(1),168-176. [in Thai]
Sirithon, C. (2018). Psychological Factors and Their Effects on the use of Online Social Networks Among the Elderly (Doctoral Dissertation), Chulalongkorn University, Bangkok. [in Thai]
Sudsomboon, S., Holamyong, T., Sunasuan, T., & Chananchana, J. (2023). Implementing the elderly school policy for quality of life development in the southern region. Academic Journal Public and Private Management, 5(2), 29–43. [in Thai]
Thai Elderly Research and Development Institute Foundation. (2021). Report on the situation of Thai elderly Point out birth numbers-Mortality is low, the labor age is decreasing but the rate of the elderly is greatly increasing. Retrieved September 9, 2024, from https://thaitgri.org. [in Thai]
The WHOQOL Group. (1997). Development of the WHOQOL: Rationale and current status. International Journal of Mental Health, 24-56. Retrieved September 1, 2024, from https://apps.who.int/iris/bitstream/handle/10665/43286/9241562943-tha.pdf
National Village and Urban Community Fund Office. (2003). Operation Manual Project to Support and Strengthen the Potential of Village and Urban Community Funds Stably. Retrieved October 19, 2024, from https://www.villagefund.or.th/th/project?projectId=88
