การอยู่ลำพังในช่วงบั้นปลายของชีวิต: การสร้างความหมายในช่วงบั้นปลายของชีวิตและวิธีคิด ที่ว่าด้วยความตาย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาชีวิตของผู้สูงอายุที่อยู่ลำพัง ทั้งในฐานะของการเลือกของปัจเจก การเผชิญกับการสูญเสียคู่ชีวิตและสมาชิกในครอบครัวในช่วงบั้นปลายของชีวิต หรือ จากการหย่าร้าง โดยเน้นการทำความเข้าใจความหมายที่ผู้สูงอายุสร้างขึ้นเกี่ยวกับการอยู่ลำพังในบั้นปลายชีวิต การวางแผน จัดการและดูแลชีวิตของตนเอง ตลอดจนมุมมองต่อความตาย การศึกษานี้ใช้แนวคิดทางสังคมวิทยาและมานุษยวิทยามาเป็นกรอบในการวิเคราะห์ ผ่านการวิจัยเชิงชาติพันธุ์วรรณา โดยเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์เชิงลึกและการสังเกตการณ์ ในชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุที่อยู่ลำพังจำนวน 15 คน ทั้งในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่และพื้นที่อำเภอรอบนอกตัวเมืองเชียงใหม่ ได้แก่ อำเภอแม่ริมและอำเภอดอยสะเก็ด โดยกลุ่มผู้ให้ข้อมูลมีความแตกต่างหลากหลาย ทั้งในเรื่องเพศภาวะ ชนชั้น (ชนชั้นกลาง ข้าราชการเกษียณ และคนจนเมือง) ความพิการ พื้นที่ที่อยู่อาศัย (เมือง ชุมชนคนจนเมืองและชนบท) และสถานภาพทางสังคม (โสด หย่าร้าง หรือ คู่ชีวิตหรือสมาชิกในครอบครัวเสียชีวิตไปแล้วทั้งหมด)
ผลการศึกษาพบว่า การอยู่ลำพังของผู้สูงอายุแต่ละคนมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างสังคมและเศรษฐกิจในสังคมไทย การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลทำให้โครงสร้างครอบครัวเปลี่ยนไป สมาชิกในครอบครัวต้องย้ายถิ่นฐานเพื่อทำงานหรืออยู่อาศัยในพื้นที่อื่น ส่งผลทำให้ผู้สูงอายุต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตตามลำพังและมีแนวคิดเรื่องการพึ่งตนเอง การไม่เป็นภาระของครอบครัว การมีอิสระเสรีภาพในการเลือกที่จะมีชีวิตตามที่ตนเองต้องการ การเชื่อมั่นในศักยภาพที่จะดูแลตนเองจนกว่าจะถึงวาระสุดท้าย ซึ่งเกี่ยวพันไปถึงการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความตายและการจัดการความตายของตนเองด้วย ดังนั้น การอยู่ลำพัง การเตรียมตัวตาย และการจัดการความตายจึงกลายเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ปัจเจกพยายามแสดงให้เห็น “ความรับผิดชอบต่อตนเอง” (self-responsibility) ที่เชื่อมโยงกับวิธีคิดทางสังคมและเศรษฐกิจที่เข้ามากำหนดจริยธรรมของการดำรงชีวิตในสังคมไทยปัจจุบัน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อเขียนทั้งหมดทีปรากฏในวารสารสังคมศาสตร์ เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนโดยเฉพาะ มิใช่ทัศนคติของคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือกองบรรณาธิการวารสารสังคมศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. 2566. “สถิติผู้สูงอายุ.” สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม 2567. https://www.dop.go.th/th/statistics_page?cat=1&id=2.
กระทรวงสาธารณสุข. 2566. แบบรายงานผลการดำเนินงานตามแผนตรวจราชการและนิเทศงานกรณีปกติ รอบที่ 2 / 2566 เขตสุขภาพที่ 1 : จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 21 – 23 มิถุนายน 2566. สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม 2567. https://chiangmaihealth.go.th/document/230616168690969315.pdf.
กาญจนา ปัญญธร, และ ชลการ ทรงศรี (2563) “การดูแลสุขภาพและปัจจัยที่เกี่ยวข้องของผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพัง ตำบลบ้านตาด อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี.” วารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท 2 (2): 41-52.
ภาวิภา ศรีรัตนบัลล์. 2561. “บ้าน” สุดท้ายของชีวิต: มุมมองเชิงสังคมวิทยาต่อการบริบาลคุณภาพชีวิตระยะสุดท้าย (The sociology of illness, dying and death). พิมพ์ครั้งที่ 3. นนทบุรี: สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.).
__________. 2566. Sociology of death – ความหมายของความตาย. เชียงใหม่: สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ.
วรางคนา บุตรศรี. 2565. “พฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุที่อยู่อาศัยตามลำพังในชุมชนเขตเมือง จังหวัดอุบลราชธานี.” วารสารวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สรรพสิทธิประสงค์ 6 (3): 57-70.
ศุทธิดา ชวนวัน, กาญจนา เทียนลาย, และปัณณวัฒน์ เถื่อนกลิ่น. 2563. รายงานการวิจัย “รูปแบบการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุไทยในเขตเมืองเพื่อสนับสนุนการมีที่อยู่อาศัยและการดูแลที่เหมาะสม.” นครปฐม: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.
สราวุธ ไพฑูรย์พงษ์. 2560. ผู้สูงอายุที่ตายตามลำพังในประเทศไทย. TDRI. สืบค้นเมื่อ 20 ธันวาคม 2567. https://tdri.or.th/2017/12/ageing-pass-away/.
สุนทรีย์ สิริอินต๊ะวงศ์ และทีมผู้ช่วยนักวิจัย. 2566. โครงการวิจัย เรื่อง “Community Evidence Gathering on Promoting Age-inclusiveness in Community-based Initiatives.” ได้รับทุนสนับสนุนในการดำเนินโครงการวิจัยจากมูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ (The Foundation for Older Person’s Development (FOPDEV) และ United Nations Population Fund (UNFPA).
สุนทรีย์ สิริอินต๊ะวงศ์. 2567. โครงการวิจัย เรื่อง “ผู้สูงอายุกับการขับเคลื่อนเรื่องที่อยู่อาศัยในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ (The Elderly and Housing Movement in Chiang Mai City).” ได้รับทุนสนับสนุนในการดำเนินโครงการวิจัยจาก คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (ยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ)
อภิโชค เกิดผล. 2563. “พินิจ “ความตาย” ในฐานะปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม.” วารสารธรรมศาสตร์ 39 (1): 183-201.
Allison, Anne. 2016. “Lonely Death.” In Living and Dying in the Contemporary World: A Compendium, edited by Veena Das and Clara Han, 662-674. California: University of California Press.
__________. 2018. “Not-Waiting to Die Badly: Facing the Precarity of Dying Alone in Japan.” In Ethnographies of Waiting, edited by Manpreet K. Janeja and Andreas Bandak, 181-202. London: Routledge.
__________. 2023. Being Dead Otherwise. Durham: Duke University Press.
De Jong Gierveld, Jenny, Theo G. Van Tilburg, and Pearl A. Dykstra. 2018. “New Ways of Theorizing and Conducting Research in the Field of Loneliness and Social Isolation.” In The Cambridge handbook of personal relationships, edited by Anita L. Vangelisti and Daniel Perlman. 391-404. Cambridge: Cambridge University Press.
Foucault, Michel. 1982. Technologies of the Self: Lecture at University of Vermont, October 1982.
Klinenberg, Eric. 2012. Going Solo: The Extraordinary Rise and Surprising Appeal of Living Alone. New York: The Penguin Press.
Ozawa-de Silva, Chikako and Michelle Parsons. 2020. “Toward an anthropology of loneliness.” Transcultural psychiatry 57 (5): 613-622.
Reher, David, and Miguel Requena. 2018. “Living Along in Later Life: A Global Perspective.” Population and Development Review 44 (3): 427-454.
Snell, Keith D.M. 2017. “The rise of living alone and loneliness in history.” Social History 42 (1): 2-28.
Walter, Tony. 2020. Death in the Modern World. Los Angeles: Sage.
Wenger, Gwynifer Clare. 2022 [1984]. The Supportive Network: Coping with Old Age. New York: Routledge.