การมีส่วนร่วมของประชาชนที่ส่งผลต่อประสิทธิผลวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์

บทคัดย่อ

วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1) เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมและระดับ
ประสิทธิผลวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์ 2) เพื่อศึกษาปัญหาและอุปสรรคในการ
ดาเนินงานของวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์ รูปแบบการวิจัยผู้วิจัยเลือกใช้รูปแบบ
การวิจัยแบบผสานวิธี ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ
ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ประธานกลุ่มและเลขานุการวิสาหกิจชุมชนจังหวัด
บุรีรัมย์ จากเขตพื้นที่ จานวน 290 กลุ่ม จาแนกเป็นระดับ OTOP (ดาว) ได้แก่ 1
ดาว จานวน 11 แห่ง 2 ดาว จานวน 58 แห่ง 3 ดาว จานวน 103 แห่ง 4 ดาว
จานวน 94 แห่ง และ 5 ดาวจานวน 24 แห่งรวม 580 คน ได้กลุ่มตัวอย่างจานวน
237 คนเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม และการสัมภาษณ์เชิงลึก
จานวน 20 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่า
เบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression
Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า ด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน ในภาพรวมอยู่ใน
ระดับมากที่สุด ( X = 4.42) และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า การมีส่วนร่วมของ
ประชาชนที่ส่งผลต่อประสิทธิผลวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์โดยรวมอยู่ในระดับ
ปานกลาง เมื่อพิจารณารายด้ายพบว่า อยู่ในระดับปานกลาง ข้อเรียงจากมากไปหา
น้อยดังนี้ ด้านการวางแผน ( X = 3.41) ด้านการรับผลประโยชน์ ( X = 3.40) ด้าน
การดาเนินงานงาน ( X = 3.38) ด้านการติดตามประเมินผล ( X = 3.35) ส่วนการมี
ส่วนร่วมของประชาชนที่ส่งผลต่อประสิทธิผลวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์ตาม
สมมติฐานการวิจัยทั้ง4ด้าน มีอยู่ 3 ด้านที่สามารถพยากรณ์การมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อ
ประสิทธิผลวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์การมีส่วนร่วมของประชาชนที่ส่งผลต่อ
ประสิทธิผลวิสาหกิจชุมชนจังหวัดบุรีรัมย์คือด้านการวางแผน (X1) ด้านการรับ
ผลประโยชน์ (X3) และด้านการดาเนินงานงาน (X2) โดยมีค่าสัมประสิทธิ์ในการ
ทานาย (R2) เท่ากับ 0.719 จึงสามารถทานายการมีส่วนร่วมของประชาชนที่ส่งผลต่อ
ประสิทธิผลวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร้อยละ 71.90