ความรับรู้ของเยาวชนในจังหวัดเชียงรายที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ผู้แต่ง

  • วรพชร จันทร์ขันตี อาจารย์ประจำสำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

คำสำคัญ:

ความรับรู้ของเยาวชน, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, จังหวัดเชียงราย

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรับรู้ของเยาวชนในจังหวัดเชียงรายที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยการสำรวจกลุ่มตัวอย่างเยาวชนที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำนวน 400 ตัวอย่าง ในพื้นที่18 อำเภอของจังหวัดเชียงราย ด้วยแบบสอบถามที่กำหนดประเด็นคำถาม 3 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง ความรับรู้ของเยาวชนต่อกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างต่อการบังคับใช้กฎหมาย

จากการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความรับรู้เกี่ยวกับกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอย่างดี และกลุ่มตัวอย่างที่เป็นกลุ่มคนรอบข้าง ได้แก่ กลุ่มบุคคลในครอบครัว กลุ่มญาติ กลุ่มเพื่อน กลุ่มคนรักหรือแฟน ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่ละกลุ่มไม่ถึงร้อยละ 32.0 ซึ่งมีผลต่อการไม่ดื่มของเยาวชนอย่างมีนัยสำคัญ โดยส่วนใหญ่เคยพบเห็นพฤติกรรมการกระทำผิดกฎหมายของผู้บริโภค และผู้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสัดส่วนที่สูง ทั้งพบเห็นการจับกุมหรือการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เพียงร้อยละ 50.5 เท่านั้น การบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จึงยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

ผลการศึกษาในครั้งนี้จึงนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่า ควรมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความชัดเจนในการกำหนดลักษณะการกระทำผิดซึ่งมีโทษทางอาญา และกำหนดมาตรการในการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

References

1. Adisorn Khemthit. (2017). Legal Measures to Control the Advertising of Alcohol Beverage Through the Internet Media, Master of Laws Thesis in Pridi Banomyong Faculty of Law, Dhurakij Pundit University.

2. Alcoholic Beverage Control Act B.E. 2551 (2008)

3. Jiratchaya Bunpanya and Nath Bhanthumnavin. (2014). “Self-protection Mechanisms against Alcoholic Consumption among Students of Chandrakasem Rajabhat University” Journal of Social Sciences and Humanities. 40(1): 128-146 (2014).

4. National Statistical Office. (2018). Administrative Conclusion: Smoking and alcohol drinking behavior survey, 2017. Bangkok: National Statistical Office.

5. Nuarpear Lekfuangfu and Others. (2015). Drinking of alcoholic beverage situation in Northern region, 2015 (Research Report). Bangkok:Center for Alcohol Studies.

6. Office of the Royal Society. (2018). Royal Institute Dictionary 2011. [Online]. Available from: https://www.royin.go.th/dictionary/. Retrieve 13 November 2018.

7. Order of the Head of the National Council for Peace and Order No.22/2558 dated 22 July B.E. 2558 (2015)

8. Orratai Waleewong and Others. (2010). Influence of parental norms and behaviours on youth drinking in Thailand (Research Report).Bangkok: Center for Alcohol Studies.

9. Pokpong Junvith. (2011). Economics Analysis of laws: Concepts and Review Articles (Research Report). Bangkok: The Thailand Research Fund.

10. Surasak Chaiyasong and Others. (2013). Provincial Alcohol Report 2011 (Research Report). 1st edition. Bangkok: Center for Alcohol Studies.

11. Thanapat Boonserm and Nathapornpan Uttama. (2014). Tendency of Chiang Rai province’s economic growth and border trade [Online]. Available from: https://rs.mfu.ac.th/obels/?p=705. Retrieved 13 June 2018.

12. The Thai penal code.

13. Udomsak Saengow and Others. (2016). Facts and Figures: Alcohol in Thailand. Songkhla: Center for Alcohol Studies.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

12/12/2018