บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งเสริมความมีใจรักและพลังขับเคลื่อน (Passion) ในการปฏิบัติงานของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับของความมีใจรักและพลังขับเคลื่อน (Passion) ในการปฏิบัติงานของครู 2) เพื่อศึกษาระดับการแสดงบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งเสริมความมีใจรักและพลังขับเคลื่อน (Passion) ในการปฏิบัติงานของครู 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการแสดงบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งเสริมความมีใจรักและพลังขับเคลื่อน (Passion) กับความมีใจรักและพลังขับเคลื่อน (Passion) ในการปฏิบัติงานของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูจาก 12 โรงเรียน จำนวน 375 คน ด้วยการสุ่มตัวอย่าง แบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์สถิติสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และสถิติการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ
ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับความมีใจรักและพลังขับเคลื่อน (Passion) ในการปฏิบัติงานของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร 5 ด้าน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2) ระดับการแสดงบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งเสริมความมีใจรักและพลังขับเคลื่อน (Passion) ในการปฏิบัติงานของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร 7 บทบาท ภาพรวมอยู่ในระดับมาก และ 3) การแสดงบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งเสริมความมีใจรักและพลังขับเคลื่อน (Passion) ในการปฏิบัติงานของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร มีความสัมพันธ์เชิงบวก อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความ ภาพ ตาราง กราฟ ข้อเขียน หรือความคิดเห็นในวารสารฉบับนี้เป็นของผู้เขียนไม่ผูกพันกับสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ และทางวิชาการแต่อย่างใดReferences
กระทรวงศึกษาธิการ. (2565). ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566. สืบค้นเมื่อ 10 ตุลาคม 2566, จาก https://www.moe.go.th/360policyand-focus-moe-2023/
กอบกุล ต๊ะปะแสง. (2563). แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากร โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ครรชิต ทรรศนะวิเทศ. (2562). แรงจูงใจในการทำงานกับผลประกอบการ Motivation to work with earnings. วารสารรัชต์ภาคย์, 13(28), 124-133.
จิราพร โสตแก้ว. (2565). การศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการคงอยู่ในอาชีพของข้าราชการครู สังกัดกรุงเทพมหานคร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
เนตรนภา นมัสไธสง. (2563). บทบาทของผู้บริหารที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32. วารสารศึกษาศาสตร์ มมร, 8(1), 315-328.
ปราณี ใจบุญ. (2561). การรับรู้ความสามารถของตนเอง ความต้องการภายใน ความสนใจและเป้าหมายการสอนที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการสอนของครู (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). มหาวิทยาลัยบูรพา. สืบค้นเมื่อ 10 ตุลาคม 2566, จาก http://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/7805
ปิยสุดา พะหลวง. (2565). บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาต่อการสร้างแรงจูงใจในการทํางานตามความคิดเห็นของบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนโสตศึกษา สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. สิกขาวารสารศึกษาศาสตร์, 9(1), 89-99.
พลพัต รัตนอนันต์. (2566). การปรับปรุงการบริหารงานบุคคลของกระทรวงกลาโหมด้วยการประยุกต์ใช้การบริหารทรัพยากรมนุษย์เชิงกลยุทธ์. วารสารสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ, 14(1). สืบค้นเมื่อ 28 ธันวาคม 2566, จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/ndsijournal/article/view/265488
มารุตศักดิ์ แสงวิจิตร และทิวัตถ์ มณีโชติ. (2564). ภาวะผู้นำแบบผู้รับใช้ของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อความมุ่งมั่นในการทำงานของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 49(1), 1-18.
วาสิตา บุญสาธร. (2556). การสร้างความมุ่งมั่นและพลังขับเคลื่อนเพื่อนำประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์. วารสารเศรษฐศาสตร์ปริทรรศน์ สถาบันพัฒนศาสตร์, 7(1), 307-355.
สำนักข่าวอิศรา. (2564, 19 พฤศจิกายน). กางปัญหา ฟังเสียงครู เปิดเหตุผล ‘ทำไมอยากลาออก’ เมื่องานไม่ได้มีแค่สอนนักเรียน. สืบค้นเมื่อ 10 ตุลาคม 2566, จาก https://www.isranews.org/article/isranews-scoop/104320-isranews-221.html
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. (2564). การเสริมสร้างแรงจูงใจให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา เป็นข้าราชการที่ดี. สืบค้นเมื่อ 24 มกราคม 2567, จาก https://www.ocsc.go.th/blog/2022/06
อาจินต์ แซ่อุน และสฎายุ ธีระวณิชตระกูล. (2561). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความทุ่มเทในการปฏิบัติงานของข้าราชการครู โรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา, 12(3). สืบค้นเมื่อ 10 ตุลาคม 2566, จาก http://journal.nmc.ac.th/th/admin/Journal/2561Vol12No3%20_1143.pdf
Day, C. (2009). A Passion for Quality: Teachers Who Make A Difference. Tijdschrift Voor Lerarenopleiders, 30(3), 4-13.
Glickman, C. D., Gordon, S. P., & Ross-Gordon, J. M. (2001). Supervision and Instructional Leadership: A Developmental Approach. Boston: Allyn & Bacon.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and psychological measurement, 30(3), 607-610.
Organisation for Education Co-operation and Development. (2019). PISA 2018 Results (Volume III): What School Life Means for Students’ Lives. Retrieved October 10, 2023 from https://
doi.org/10.1787/acd78851-en
Vallerand, R. J. (2016). The Dualistic Model of Passion: Theory, Research, and Implications for the Field of Education. In W. Liu, J. Wang, R. Ryan. (Eds.), Building Autonomous Learners (p. 31-58). Berlin: Springer.