กลยุทธ์การธำรงรักษาบุคลากรของสถานศึกษาเอกชนในเขตภาคเหนือตอนบน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่เป็นสาเหตุทำให้บุคลากรผู้สอนของสถานศึกษาเอกชนในเขตภาคเหนือตอนบนลาออกก่อนกำหนดเวลา และปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของบุคลากรสถานศึกษาเอกชนที่มีอายุงานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป ศึกษาสภาพการธำรงรักษาบุคลากรของสถานศึกษาเอกชนในเขตภาคเหนือตอนบน และเพื่อพัฒนากลยุทธ์การธำรงรักษาบุคลากรของสถานศึกษาเอกชนในเขตภาคเหนือตอนบน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้มี 3 กลุ่ม ได้แก่ บุคลากรของสถานศึกษาเอกชนในเขตภาคเหนือตอนบนที่ลาออกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550-2554 จำนวน 305 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม บุคลากรของสถานศึกษาเอกชนที่ปฏิบัติงานเกิน 10 ปี จำนวน 384 คน และผู้อำนวยการสถานศึกษาเอกชนระบบสามัญศึกษาในเขตภาคเหนือตอนบน จำนวน 175 คน

ผลการวิจัย พบว่า ปัจจัยที่เป็นสาเหตุทำให้บุคลากรผู้สอนของสถานศึกษาเอกชนในเขตภาคเหนือตอนบน ลาออกก่อนกำหนดเวลา จำนวน 13 ด้าน ส่วนใหญ่มีผลกระทบในระดับปานกลางโดยมีขอบเขตค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 2.50-3.46 ส่วนปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจลาออกในระดับมากได้แก่ นโยบายของโรงเรียน การบริหารและการจัดการ การพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนและความดีความชอบ ความก้าวหน้าในอาชีพ ค่าจ้างและสวัสดิการอื่น ส่วนสุขภาพส่วนบุคคลของบุคลากรผู้สอนมีผลกระทบอยู่ในระดับน้อย

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของบุคลากรสถานศึกษาอกชนที่ปฏิบัติงานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จำนวน 13 ด้าน ส่วนใหญ่มีผลกระทบในระดับมาก มีขอบเขตค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.56-3.72 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสำเร็จในการทำงาน ความสัมพันธ์ภายในโรงเรียน สุขภาพส่วนบุคคลของบุคลากรผู้สอน สภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน การมี ส่วนร่วม และนโยบายของโรงเรียน ส่วนความก้าวหน้าในอาชีพ เงินเดือน ค่าจ้างและสวัสดิการอื่น ขวัญและกำลังใจ มีผลกระทบในระดับปานกลาง

สภาพการธำรงรักษาบุคลากรของสถานศึกษาเอกชนในเขตภาคเหนือตอนบน พบว่า การบริหารงานของบุคลากรของสถานศึกษาเอกชน จำนวน 12 ด้าน ส่วนใหญ่มีการดำเนินการเป็นประจำสม่ำเสมอหรือทุกปี มีขอบเขตค่าเฉลี่ยระหว่าง 3.53-4.83 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสัมพันธ์ภายในโรงเรียน การบริหารและการจัดการ การมีส่วนร่วมและสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงาน ส่วนเงินเดือน ค่าจ้างและสวัสดิการอื่น ครอบครัวและสุขภาพส่วนบุคคลของบุคลากรผู้สอน มีการดำเนินการในบางภาคเรียนหรือรายปี

สำหรับการพัฒนากลยุทธ์การธำรงรักษาบุคลากรของสถานศึกษาเอกชนในเขตภาคเหนือตอนบน จำนวน 3 ยุทธศาสตร์ 8 กลยุทธ์ พบว่า เหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด มีขอบเขตค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 4.50-4.67 ส่วนการยอมรับได้อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.46 ซึ่งถือว่าสามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของสถานศึกษาเอกชนเพื่อลดปัญหาการลาออกและธำรงรักษาบุคลากรของสถานศึกษาเอกชนได้

Maintenance Strategies for Sustaining Working Status of Private School Personnel the Upper Northern Region of Thailand

The purposes of this research were to study the factors that cause the personnel of private school in the upper northern region of Thailand resign early and the factors that affect to instructors who work 10 or more years of teaching in private school. Furthermore, this research study is about development strategy and maintenance of private school’s personnel in the upper northern region of Thailand.

The sample used in this research includes 3 groups : 305 private schools’ personnel in the Upper Northern Region of Thailand that resigned from 2007 to 2011. An amount of 384 Private school’s personnel who worked more than 10 years, and 175 private school’s directors in the upper north of Thailand, collecting the data through questionnaires.

This research found 13 factors that make the personnel in the upper northern region of Thailand resign early. Most factors affected by the medium level at the average range are between 2.50 to 3.46. The greatest factors for deciding to resign are as follows: the policy of the school, administration and management, determining salary and merit, advancement of the chosen profession, wages and other benefits.

The factors that affect performance of private teachers who work greater than 10 years are most of the 13 factors at a high level. The average range is between 3.56 to 3.72. The largest effects are on the success of the operation, relationships within the school, personnel’s health, the environment, the participation and the policy of the school. The advancement of salary and wages including other benefits and moral support are at medium level.

There are 12 factors for maintenance strategies for sustaining the working status of private school personnel in the upper northern region of Thailand. The largest yearly average range is 3.53-4.83 especially including relationships in school, administration and management, participation and environment, salary and other welfare. Family and personnel’s health also factor into some years or some semesters.

Developing strategies for maintaining staff of private schools in the upper northern region of Thailand have 3 styles. From the most suitable and possible evaluation found is an average range between 4.50-4.67 and acceptance has an average equal to 4.46. That means developing strategies for maintaining staff of the private school in the upper north of Thailand could apply to private school to reduce the problem resigning and maintaining the personnel of private school.