ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและการเรียนรู้แบบนำตนเองของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้บทเรียน E-Learning ม

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างบทเรียน E-Learning ในการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและ การเรียนรู้แบบนำตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 70/70 หาค่าดัชนีประสิทธิผล เปรียบเทียบทักษะการฟังและทักษะการอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียน E-Learning ระหว่างก่อนและหลังเรียน เปรียบเทียบการเรียนรู้แบบนำตนเองก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียน E-Learning และเปรียบเทียบทักษะการฟังและทักษะ การอ่านของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนระหว่างนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยบทเรียน E-Learning กับนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบปกติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/8 และ 3/10 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนนาเชือกพิทยาสรรค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) จำนวน 2 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 70 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test ผลการวิจัย พบว่า บทเรียน E–Learning ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษและการเรียนรู้แบบนำตนเองของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 73.05/73.67 ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนการสอนด้วยบทเรียน E–Learning มีค่าเท่ากับ 0.6586 หรือ คิดเป็นร้อยละ 65.86 นักเรียนกลุ่มทดลองมีทักษะการฟังและการอ่านภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 นักเรียนกลุ่มทดลองมีการเรียนรู้แบบนำตนเองหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และนักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดการเรียนการสอนด้วยบทเรียน E-Learning มีทักษะการฟังและทักษะการอ่านสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

Enhancing English Language Learning and Self-directed Learning by Using E-Learning of Mattayomsueksa III Students

The purposes of this study were, to develop E-learning lessons to enhance English learning and self-directed learning of Mathayomsueksa III students that meet the required efficiency of 70/70, to determine the effectiveness index of the developed e-learning lessons, to compare the students’ learning skills in English Listening and reading before and after using the E-Learning lessons, to compare the self -directed learning of Mathayomsueksa III students before and after using the E-Learning lessons, and to compare the students' learning skills in English listening and reading of the students who learned with E-Learning and the skills of those who learned through the traditional instruction. The sample used in this study consisted of 70 Mathayomsueksa III students of Class 3/8 and 3/10, who were studying at Nachuek Pitayasan School in the first semester of the academic year 2012 and obtained through cluster random sampling. The statistics used in analyzing data were basic statistics and t-test (independent samples and dependent samples) for testing the hypotheses. Results of the study were as follows: The efficiency index of the E-Learning units for enhancing English Learning and self-directed learning of Mathayomsueksa III Students was 73.05 / 73.67, The effectiveness index of the E-Learning units for Enhance English Learning and self-directed learning of Mathayomsueksa III Students was 0.6586 or 65.86%. The posttest skills of listening and reading of Mathayomsueksa III students in the experimental group who learned by using E-Learning was higher than that of the students learning through the traditional instruction at the .01 level of statistical significance. The self-directed learning of the students in the experimental group who were taught by using E-Learning lessons was higher than that of students learning through the traditional instruction at the .01 level of statistical significance. The learning skills in English listening and reading of the students in the experimental group of E-learning was higher than that of the control group who learned through the traditional instruction at the .01 level of statistical significance.